ราคาทอง (96.5%) ขายปลีกในประเทศเช้านี้ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มขึ้นจากวันเสาร์ (20 ก.ย.) อีกบาททองคำละ 150 บาท ตามสถานการณ์ราคาทองคำในตลาดโลก
เมื่อเวลา 09.10 น. สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาทองคำ (96.5%) ครั้งแรก
- ทองคำแท่ง รับซื้อบาททองคำละ 55,450 บาท ขายออกบาททองคำละ 55,550 บาท
- ทองรูปพรรณ รับซื้อบาททองคำละ 54,333.44 บาท ขายออกบาททองคำละ 56,350 บาท
บทวิเคราะห์จากบริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา ทองโลกมีการปรับตัวขึ้นจากการที่สหรัฐฯ กำลังเผชิญหน้ากับความเสี่ยงที่จะเกิดการชัตดาวน์บางส่วนของรัฐบาล (partial government shutdown) ในช่วงปลายเดือน ก.ย.นี้ เนื่องจากพรรครีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎรได้ริเริ่มให้มีการผ่านร่างกฎหมายที่จะขยายงบประมาณของรัฐบาลออกไปอีกเจ็ดสัปดาห์จนถึงวันที่ 21 พ.ย. ขณะที่พรรคเดโมแครตปฏิเสธร่างกฎหมายของพรรครีพับลิกันอย่างสิ้นเชิง โดยมีจุดยืนที่ต้องการให้มีการรวมงบประมาณด้านการดูแลสุขภาพที่ถูกตัดออกไปกลับคืนมา ซึ่งการเจรจาครั้งสำคัญนี้มีเส้นตายอย่างเป็นทางการในวันที่ 29-30 ก.ย. ขณะที่ทางด้านกองทุน SPDR ซื้อทองคำ 18.90 รวมสุทธิ 994.56 ตัน
อย่างไรก็ตาม ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) แข็งค่าเป็นวันที่ 3 สู่ระดับ 97.64 หน่วย จาก 96.61 หน่วย อีกทั้งบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ได้ปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 3 สู่ระดับ 4.13% จากที่ระดับ 4.02% ขณะที่ตลาดได้จับตาประธานศาลฎีกา จอห์น โรเบิร์ตส์ ที่ได้ร้องขอคำชี้แจงเพิ่มเติมจากนางลิซ่า คุก ผู้ว่าการเฟด ภายในวันที่ 25 ก.ย.นี้ เพื่อใช้ในการพิจารณาคดีเกี่ยวกับความพยายามของ ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ต้องการปลดลิซ่า คุก ออกจากตำแหน่ง
ราคาทอง มีแนวโน้ม Sideway ในกรอบแนวรับและแนวต้านที่ 3,660 และ 3,700 ดอลลาร์ ตามลำดับ จึงประเมินว่า ทองโลกอาจยังคงแกว่งตัวขึ้นลงอยู่ในกรอบดังกล่าว แต่หากทองโลกหลุดแนวรับถัดไปที่ 3,650 ดอลลาร์ ทองโลกอาจเข้าสู่ระยะขาลง
สำหรับราคาทองในประเทศรับตัวขึ้นตามทองโลก ในขณะที่ค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่า จึงแนะนำเข้าซื้อสะสมแนวรับที่ระดับ 55,150 บาท และขายทำกำไรหากราคาทดสอบแนวต้านที่ 55,550 บาท แต่หากราคาหลุดแนวรับที่ 55,050 บาท ลงไป แนะนำขายตัดขาดทุน