นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย กล่าวภายหลังประชุมหารือเพื่อรับฟังข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปเศรษฐกิจและตลาดทุนไทยว่า วันนี้ได้ข้อมูลที่จะนำไปเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน และสร้างความแข็งแกร่งให้กับตลาดทุนของไทย โดยหารือถึงการเสริมสร้างความเชื่อมั่น พัฒนาเครื่องยนต์เศรษฐกิจยุคใหม่ด้วยกลไกตลาดทุนเพื่อเพิ่มสภาพคล่องระยะยาวให้กับตลาดทุนไทย
นายอนุทิน กล่าวว่า ในรายละเอียดจะให้ทางภาครัฐและฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุนมีการหารือกันต่อไปเพื่อนำมาสู่การดำเนินการให้เร็วที่สุด เพื่อทำให้ตลาดทุนไทยที่เป็นตัวชี้วัดความมั่งคั่งของประเทศได้รับความเชื่อมั่นอย่างเต็มที่จากนักลงทุนไทยและต่างประเทศ พร้อมกับหารือการแก้ไขกฎระเบียบต่าง ๆ ที่เป็นภาระอุปสรรคหรือ Regulatory Guillotine ซึ่งต้องใช้ความกล้าหาญในการตัดสินใจ เพราะหากจะให้ไปตรากฎหมายใหม่อาจมีเวลาไม่เพียงพอ
"รัฐบาลจะใช้เวลา 4 เดือนที่มีอยู่อย่างเต็มที่ หากเรื่องใดสามารถตัดสินใจในเชิงบริหาร เราก็จะเร่งทำด้วยการตัดสินใจของผมและคณะรัฐมนตรีที่รับผิดชอบด้านเศรษฐกิจ ด้านการคลัง พาณิชย์ อุตสาหกรรม และพลังงาน เร่งดำเนินการอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างความแข็งแกร่ง สร้างความเชื่อมั่น ฟื้นฟูเศรษฐกิจ และวางรากฐานอนาคตตลาดทุนไทยและของระบบเศรษฐกิจไทยในระยะยาว"นายอนุทิน กล่าวส่วนจากสถานการณ์การเมืองที่ส่งผลต่อตลาดหุ้นร่วงลงมา รัฐบาลชุดนี้จะสร้างความเชื่อมั่นให้ดีขึ้นได้หรือไม่นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ความเชื่อมั่นที่จะมอบให้กับประชาชนได้ คือรัฐบาลชุดนี้ได้จัดตั้งทีมทำงานด้านเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นบุคลากรที่ไม่มีการครอบงำทางการเมือง ใช้ความรู้ความสามารถทำภารกิจตามนโยบายอย่างเต็มที่ และใช้ทุกอย่างที่มีฟื้นฟู สร้างความเชื่อมั่น สร้างความมั่งคั่งให้กับเศรษฐกิจประเทศ ซึ่งรัฐมนตรีทุกคนมีอำนาจเต็ม ไม่มีทีมการเมือง ต้องคัดสรรบุคลากรที่จะนำมาช่วยงานด้วยตัวเอง แต่อยู่ภายใต้กฎระเบียบ ข้อบังคับ กฎหมาย ไม่ทำผิดรัฐธรรมนูญ
นายอนุทิน ยังตอบคำถามว่ารัฐบาลมีเวลาสั้น ๆ จะสามารถเรียกความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนไทยกับต่างชาติได้อย่างไรว่า หากเข้ามาทำหน้าที่แล้วมาบอกว่าจะแก้กฎหมายหรือตรากฎหมายใหม่ คงเป็นไปไม่ได้ในระยะสั้น ๆ แต่เราจะดูในกฎหมายที่มีอยู่ แก้กฎระเบียบ ทะลวงสิ่งต่าง ๆ โดยไม่แตะกฎหมายหลักที่ต้องทำผ่านสภาผู้แทนราษฎร แต่จะใช้กลไกผ่านทางกระทรวงต่าง ๆ กระทุ้งท่อที่ค้างไว้ให้ไหลไปได้ เชื่อว่าระยะ 4 เดือนน่าจะเพียงพอ เป็นรากฐานที่ดีต่อเนื่องไปยังรัฐบาลต่อไป
สิ่งที่รัฐบาลคาดหวังต่อตลาดทุนไทยนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องตลาดทุนกับเศรษฐกิจคู่กันอยู่แล้ว ก็คาดหวังให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยสูงขึ้นเรื่อย ๆ เพราะเรามีทีมงานที่ดี การลงทุนในตลาดทุนต้องสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้น ซึ่งมั่นใจว่าความเชื่อมั่นของประชาชนต่อทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดนี้มีมากระดับหนึ่ง
นายอนุทิน กล่าวว่า หากเราตัดสินใจลงทุนอะไรก็ตาม เราไม่ได้ลงทุนด้วยข้อมูลในอดีต แต่ใช้การกระทำที่เกิดขึ้นและคาดการณ์ว่าในอนาคตเป็นอย่างไร เราก็จะสร้างความเชื่อมั่นในทุนตัวนั้น ๆ และลงทุนไป การลงทุนทุกอย่างมีความเสี่ยง แต่ทำอย่างไรให้ความเสี่ยงคำนวณได้ คาดการณ์ได้ และที่ผ่านมาตรงนี้ขาดหายไป เพราะทิศทางไม่ชัดเจน
"รัฐบาลชุดนี้ด้วยเวลาจะกี่เดือนก็แล้วแต่ ถ้าเราสามารถสร้างความชัดเจนได้ เราก็เชื่อมั่นว่า ความมั่นใจก็จะกลับคืนมาตลาดทุนของประเทศไทย" นายอนุทิน กล่าวส่วนกรณีฟิทช์ เรทติ้งส์ (Fitch Ratings) มีประกาศปรับแนวโน้ม (Outlook) อันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย ทั้งจากปัจจัยทางการเมืองและรายจ่าย แต่รัฐบาลมีนโยบายในการกระตุ้นเศรษฐกิจและลดค่าครองชีพ และใช้เครื่องมือทางการคลังค่อนข้างมาก รัฐบาลจะมีการปรับนโยบายหรือไม่ เพื่อให้สอดคล้องกับสอดคล้องทางการคลัง นายอนุทิน กล่าวว่า การปรับลด Outlook เป็นการปรับลดจากพื้นฐานในอดีต วันนี้เป็นรัฐบาลใหม่เรารับทราบปัญหา เราพยายามจะปรับเพิ่มด้วยการสร้างความเชื่อมั่น กำหนดนโยบายและมีการเดินสายไปพบทั้งผู้ประกอบการและสมาคมต่าง ๆ มา ปัญหาที่ได้รับฟังมาจากทุกภาคส่วน คือความไม่ชัดเจนและทิศทางการสนับสนุนของรัฐต่อผู้ประกอบการ ซึ่งมั่นใจว่านี่คือหน้าที่ของรัฐบาลชุดนี้ที่มีรัฐมนตรีที่เข้าใจถึงปัญหาจะเร่งแก้ปัญหาร่วมกัน
อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงรัฐบาลบ่อย ๆ เป็นปัจจัยหนึ่งที่กระชากเศรษฐกิจให้ทรุดลง ตรงนี้มั่นใจได้อย่างไรว่า 4 เดือนนี้จะวางรากฐานไว้และในอีก 4 ปีข้างหน้าจะนำพาทีมนี้กลับมาได้อีก นายอนุทิน กล่าวว่า รัฐบาลที่เปลี่ยนแปลงบ่อย ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ดีเสมอไป ขอให้มีความใจกว้าง นึกถึงผลประโยชน์ของประเทศและประชาชนเป็นเป้าหมายหลัก
นายอนุทิน กล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้ เมื่อเข้ามาแล้ว นโยบายอะไรที่ดี ๆ ค้างท่อมาจากรัฐบาลที่แล้ว ๆ มา หรือเป็นนโยบายที่เป็นประโยชน์กับประชาชน ที่เคยเป็นที่นิยมชมชอบ สามารถนำมากระตุ้นคุณภาพชีวิต กระตุ้นเศรษฐกิจ หรือทำให้เกิดความสงบให้กับสังคมได้ ก็นำมาสานต่อไป เช่น นโยบายคนละครึ่ง ซึ่งเป็นโจทย์ใหญ่ โจทย์แรกที่รัฐบาลนี้ต้องทำให้ได้ เราเตรียมทั้งงบประมาณที่เราเล็งไว้ หากใช้ไม่ได้ก็ใช้อีกก้อนหนึ่ง ที่จะนำมาดำเนินการให้กับประชาชน โดยไม่มีการเลื่อนระยะเวลาที่จะมาดำเนินการ
"เราได้ใช้เวลาในช่วงก่อนที่จะเข้ามาบริหารราชาการแผ่นดินอย่างเต็มตัวได้มีการเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว ขอให้ประชาชนเห็นการดำเนินการของเรา ซึ่งจะเป็นพิสูจน์ว่าเราเข้ามาแก้ไขปัญหา หาทางออกให้กับบ้านเมืองจริง ๆ ไม่ใช่มาถึงรอวันยุบสภา แล้วเป็นรัฐมนตรี มาเป็นนายกฯ เท่ ๆ ไป 4 เดือน ไม่มีเท่ มีแต่เวลาทุกวันที่ต้องทำงานอย่างเต็มที่" นายอนุทิน กล่าวส่วนปัญหาทุนปริศนาที่อาจเข้ามาผ่านหรือพักในตลาดทุนไทยได้มีการกำชับอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องใดที่เป็นสีเทา รมว.คลัง ได้ทำการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และธนาคารต่าง ๆ ขอความร่วมมือไม่ให้เกิดสิ่งเหล่านี้ ช่วยมอนิเตอร์ เพื่อไม่ให้เงินเหล่านี้เข้ามาแล้วทำให้เงินบาทแข็ง คนก็เดือดร้อน ก็ต้องพยายามดำเนินการ เพราะสิ่งเหล่านี้ผิดกฎหมาย หากถึงขั้นยึดทรัพย์ได้ก็จะทำ