
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานการประชุมหารือแนวทางบูรณาการช่วยเหลือนักท่องเที่ยว กล่าวว่า ในช่วง 4 เดือนข้างหน้ารัฐบาลจะดำเนินมาตรการเชิงรุกเพื่อดึงนักท่องเที่ยวจีนกลับมาเยือนไทยไม่น้อยกว่า 2 ล้านคน ซึ่งการสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยถือเป็นเรื่องสำคัญมาก รวมถึงความสัมพันธ์ไทย-จีน
ด้านนายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า กระทรวงฯ จะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย และดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนให้กลับมาเที่ยวไทยอีกครั้ง โดยตั้งเป้าให้จำนวนใกล้เคียงกับช่วงก่อนสถานการณ์โควิด-19 นอกจากนี้ยังเน้นสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยระหว่างการเดินทาง เพื่อให้นักท่องเที่ยวเกิดความมั่นใจ

สำหรับมาตรการด้านความปลอดภัย ตำรวจท่องเที่ยวได้เตรียมความพร้อมตลอด High Season โดยมีศูนย์รับแจ้งเหตุ 1155 ทำงาน 24 ชั่วโมง พร้อมแอปพลิเคชัน Thailand Tourist Police รองรับ 8 ภาษา รวมทั้งอังกฤษ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี และรัสเซีย โดยมีฟังก์ชันแจ้งเหตุ สอบถามข้อมูล และปุ่ม SOS ส่งต่อไปยังศูนย์รับแจ้งเหตุของกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวในทุกจังหวัดและสถานีตำรวจพื้นที่
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้กำชับให้ตำรวจท่องเที่ยวจัดทำสถิติเปรียบเทียบอาชญากรรมกับนักท่องเที่ยวทั้งในไทยและต่างประเทศ พร้อมประชาสัมพันธ์พื้นที่ปลอดภัยในแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ โดยใช้ระบบ AI Detect สแกนใบหน้าเชื่อมโยงหมายจับจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเฝ้าระวังบุคคลที่มีพฤติการณ์เสี่ยงก่ออาชญากรรม เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้ทั้งประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ทั้งนี้ การดำเนินงานจะมีการบูรณาการร่วมกับกรมการท่องเที่ยว กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว และศูนย์ประสานงานช่วยเหลือนักท่องเที่ยว (Tourist Assistance Center: TAC) โดยมีเจ้าหน้าที่รวม 274 คน ครอบคลุม 79 แห่งทั่วประเทศ พร้อมรองรับการท่องเที่ยวและการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ที่จะจัดขึ้นในช่วงไฮซีซั่น
"อยากให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่ใคร ๆ ก็อยากมาเยือน เดินทางมาแล้วรู้สึกปลอดภัยจากการดูแลอย่างดีของเจ้าหน้าที่ไทย"ขณะที่ภารกิจเร่งด่วนที่กระทรวงต้องดำเนินการทันที คือการเตรียมความพร้อมในการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ซึ่งจะเริ่มขึ้นในอีกเพียง 74 วันข้างหน้า โดยตนและ ร.อ.ธรรมนัส ได้รับทราบถึงปัญหาและเร่งดำเนินการแก้ไขแล้ว
"แม้เวลาที่เหลือจะค่อนข้างจำกัด แต่เชื่อมั่นว่า หากทุกฝ่ายให้ความร่วมมือ ใส่ใจในรายละเอียด ก้าวข้ามอัตตาส่วนตัว และทำงานเพื่อชาติร่วมกัน เราจะสามารถจัดซีเกมส์ได้อย่างมีมาตรฐานสากล และสมศักดิ์ศรีในฐานะเจ้าภาพ หลังจากที่ประเทศไทยห่างหายจากการเป็นเจ้าภาพการแข่งขันรายการนี้มานานเกือบ 20 ปี" นายอรรถกร กล่าว