ดัชนี MPI ส.ค. หดตัว 4.19%YoY รับบาทแข็ง-ท่องเที่ยวชะลอ-พิพาทชายแดนกดดัน

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday September 30, 2025 11:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนี MPI ส.ค. หดตัว 4.19%YoY รับบาทแข็ง-ท่องเที่ยวชะลอ-พิพาทชายแดนกดดัน

นายภาสกร ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือน ส.ค.68 อยู่ที่ระดับ 92.13 หดตัว 4.198% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้านอัตราการใช้กำลังการผลิต (CapU) เดือน ส.ค.68 อยู่ที่ 57.19%

"ดัชนีฯ เดือนสิงหาคมรับแรงกดดันจากค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นส่งผลให้ต้นทุนสินค้าส่งออกสูง กระทบความสามารถทางการแข่งขันด้านราคา อุตสาหกรรมยานยนต์ยังคงหดตัว หลังผู้ผลิตรายใหญ่หยุดการผลิตชั่วคราวเพื่อปรับเปลี่ยนสายการผลิตไปติดตั้งใหม่ที่โรงงานอีกแห่งในประเทศ โรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่หยุดซ่อมบำรุงประจำปี และนักท่องเที่ยวต่างชาติชะลอตัว" นายภาสกร กล่าว
*ปัจจัยกดดัน ได้แก่

- เงินบาทแข็งค่าในช่วงเดือน ม.ค.-ส.ค.68 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ต้นทุนสินค้าส่งออกของไทยสูงขึ้น กระทบความสามารถในการแข่งขันด้านราคาของสินค้าส่งออกเมื่อเทียบกับคู่แข่งที่มีราคาใกล้เคียงกัน

- อุตสาหกรรมยานยนต์หดตัว โดยในเดือน ส.ค.68 ดัชนีการผลิตอุตสาหกรรมยานยนต์ (MPI) หดตัว 8.09% เมื่อเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน สาเหตุมาจากการผลิตเพื่อการส่งออกที่ลดลงและกำลังซื้อในประเทศยังไม่ฟื้นตัว

- ความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือน ส.ค.68 ปรับตัวลดลงอยู่ที่ระดับ 86.4 ปรับตัวลดลงจาก 86.6 ในเดือน ก.ค.68 จากข้อพิพาทบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เงินบาทแข็งค่าเมื่อเทียบกับคู่แข่งในภูมิภาค ความไม่ชัดเจนของอัตราภาษีสหรัฐฯ

- นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศชะลอตัว ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง เช่น อาหารแช่แข็ง ไส้กรอก กระเดินทาง รองเท้ากีฬา และเครื่องดื่มที่มีแอลกอออล์ เป็นต้น

*ปัจจัยสนับสนุน ได้แก่

- การค้าระหว่างประเทศขยายตัวต่อเนื่อง โดยมูลค่าการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมขยายตัว 11.2% และการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม (ไม่รวมทองคำ อาวุธ รถถัง และอากาศยานรบ) ขยายตัว 7.9%

- การลงทนภาคเอกชนมีสัญญาณฟื้นตัวในเดือน ส.ค.68 ไทยมีทุนจดทะเบียนรวม 23,189 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.38% จากปีก่อน ขณะที่ BOI อนุมัติโครงการใหม่ 4 โครงการ โดยส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมเทคโนโลยชั้นสูง เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และศูนย์ข้อมูล

- มาตรการรัฐบาล คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโนบายจาก 1.75% เหลือ 1.50% เพื่อกระตุ้นการบริโภคและการลงทุนในภาคเอกชน

*อุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลบวกต่อดัชนีฯ ได้แก่

- เหล็กและเหล็กกล้าขั้นมูลฐาน ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 22.74% จากเหล็กแผ่นรีดร้อน ท่อเหล็กกล้า และเหล็กเส้นข้ออ้อย เป็นหลัก จากฐานต่ำในปีก่อนของผลิตภัณฑ์เหล็กแผ่นรีดร้อนที่มีผู้ผลิตบางรายหยุดซ่อมบำรุง สำหรับท่อเหล็กกล้า ผู้ผลิตขยายตลาดในประเทศและหาลูกค้าใหม่ ส่วนเหล็กเส้นข้ออ้อย ตลาดขยายตัวมากกว่าปีก่อนที่คำสั่งซื้อมีอย่างจำกัด

- คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 19.14% จาก Hard Disk Drive เป็นหลัก ตามการขยายตัวของระบบ AI ระบบคลาวด์ และ Data Center ส่งผลให้มีความต้องการใช้อุปกรณ์จัดเก็บและประมวลผลข้อมูลที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

- ชิ้นส่วนและแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 6.42% จาก PCBA และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ เป็นหลัก ตามการขยายตัวของตลาดอิเล็กทรอนิกส์โลกที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง

*อุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลลบต่อดัชนีฯ ได้แก่

- ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม หดตัวลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 7.98% จากน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว น้ำมันเครื่องบิน น้ำมันเบนซิน 91 และน้ำมันเบนซิน 95 เป็นหลัก จากผู้ผลิตบางรายหยุดซ่อมบำรุงโรงกลั่นครั้งใหญ่

- ยานยนต์ หดตัวลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 8.09% จากรถบรรทุกปิคอัพ รถยนต์ไฮบริดไม่เกิน 1,800 ซีซี รถยนต์นั่งขนาดเล็ก และรถยนต์นั่งขนาดใหญ่ เป็นหลัก จากผู้ผลิตบางรายหยุดผลิตชั่วคราวเนื่องจากอยู่ระหว่างปรับเปลี่ยนสายการผลิตไปติดตั้งใหม่ที่โรงงานอีกแห่งในประเทศ

- เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ น้ำแร่และน้ำดื่มบรรจุขวดประเภทอื่นๆ หดตัวลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 11.58% จากเครื่องดื่มรสผลไม้ เครื่องดื่มบำรุงกำลัง และเครื่องดื่มกาแฟสำเร็จรูป เป็นหลัก จากปัญหาการปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา และจากปัญหาเรื่องการใช้เครื่องหมายการค้าของผู้ผลิตบางรายทำให้ยังไม่สามารถผลิตสินค้าได้

*แนวโน้มเดือนก.ย. ทรงตัว

ด้านระบบการเตือนภัยด้านเศรษฐกิจอุตสาหกรรมภาพรวมของไทยเดือน ก.ย.68 "ส่งสัญญาณเฝ้าระวัง" โดยปัจจัยภายในประเทศโดยรวมส่งสัญญาณปกติจากการส่งออกที่ยังขยายตัวได้ในกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และความเชื่อมั่นด้านคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์

ดัชนีการลงทุนภาคเอกชนของไทย ส่งสัญญาณเฝ้าระวังเพิ่มขึ้น

ดัชนีปริมาณสินค้านำเข้า ส่งสัญญาณปกติ

ดัชนีความเชื่อมั่นด้านคำสั่งซื้อและดัชนีราคาส่งออก ส่งสัญญาณขยายตัว ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศภาพรวมส่งสัญญาณเฝ้าระวังต่อเนื่องจากภาคการผลิตที่ยังคงซบเซา และคำสั่งซื้อใหม่ปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตามจากการส่งออกสินค้าทุนและสินค้าเกษตรที่เติบโตต่อเนื่อง ทำให้ส่งสัญญาณเฝ้าระวังลดลง

"ดัชนีฯ เดือนกันยายนมีแนวโน้มทรงตัว เนื่องจากปัจจัยแวดล้อมยังสอดคล้องกับเดือนสิงหาค ...จะพิจารณาปรับเป้าดัชนีฯ เดือนพฤศจิกายน ซึ่งมีแนวโน้มปรับตัวลดลงจากเดิม" นายภาสกร กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ