นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเย็นนี้อยู่ที่ 32.37 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจากเปิดตลาด เมื่อเช้าที่ระดับ 32.22 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเคลื่อนไหวในกรอบ 32.22- 2.39 บาท/ดอลลาร์ โดยระดับ 32.39 บาท/ดอลลาร์ เป็นระดับอ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 1 เดือน
"บาทอ่อนค่าสุดในภูมิภาค และไม่ได้เคลื่อนไหวตามสถานการณ์ราคาทองในตลาดโลก ตลาดอาจรอดูมาตรการแก้ไขเงินบาท แข็งค่าของทางการ นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 32.25-32.40 บาท/ดอลลาร์
คืนนี้ตลาดรอดูตัวเลขความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และยอดเปิดรับสมัครงานเดือน ส.ค.68 ของสหรัฐฯ และการชัตดาวน์หน่วย งานภาครัฐของสหรัฐฯ
THAI BAHT SPOT RATE FIXING อยู่ที่ระดับ 32.3500 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยน อยู่ที่ระดับ 147.88 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 148.66 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1753 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.1720 ดอลลาร์/ยูโร
- รมว.คลัง เผยรัฐบาลจะดำเนินนโยบาย 4 เดือน Big Quick Win 5 เสาหลัก เพื่อกระตุ้นสั้น ได้ผลยาว กระจายตัว
โดยคาดว่าเศรษฐกิจไตรมาส 4/68 จะขยายตัวเพิ่มได้มากกว่า 0.3% ต่อปี , หนี้ครัวเรือนลดลงต่ำกว่า 87.4% ของ GDP, สภาพ
คล่อง SMEs เพิ่มขึ้น, ประชาชนมีช่องทางการออมระยะยาวมากขึ้น และ เงินลงทุนเพื่ออนาคตเข้ามามากขึ้น
- ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือน ส.ค.68 อยู่ที่ระดับ
92.13 หดตัว 4.198% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิต (CapU) เดือน ส.ค.68 อยู่ที่ 57.19%
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า เศรษฐกิจไทยเดือน ส.ค.68 ชะลอลงจากเดือนก่อนจากภาคเกษตรและการ
ผลิตภาคอุตสาหกรรม ส่งผลให้ภาคการค้าและขนส่งสินค้าลดลงตาม
- กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เผยตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.- 28 ก.ย.68 ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
สะสมทั้งสิ้น 23,969,579 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 1,106,645 ล้านบาท
- นักลงทุนจับตาการหารือระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กับแกนนำของสภาคองเกรสที่ทำเนียบขาวในวันนี้ เพื่อหาทาง
หลีกเลี่ยงวิกฤติชัตดาวน์ ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ระบุว่า ทางกระทรวงจะไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ หากสมาชิก
สภาคองเกรสไม่สามารถตกลงกันเกี่ยวกับการจัดสรรงบประมาณเพื่อหลีกเลี่ยงชัตดาวน์ได้ก่อนกำหนดเส้นตายในช่วงเที่ยงคืนของวันที่ 30
ก.ย.ตามเวลาสหรัฐ โดยข้อมูลเศรษฐกิจที่จะได้รับผลกระทบ ได้แก่ ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานซึ่งมีกำหนดเผยแพร่ในวันที่ 2 ต.
ค., การจ้างงานนอกภาคเกษตรที่มีกำหนดเผยแพร่ในวันที่ 3 ต.ค. และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่มีกำหนดเผยแพร่ในวันที่ 15 ต.ค.