
น.ส.ชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายองค์กรสัมพันธ์ และโฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจเร่งด่วนของรัฐบาล ที่เตรียมจะทำโครงการ "คนละครึ่งพลัส" และเติมเงินเพิ่มในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยใช้งบประมาณ รวมกว่า 66,000 ล้านบาทว่า หากพิจารณาในส่วนของเม็ดเงินดังกล่าว ซึ่งคิดเป็นมูลค่าราว 0.4% ของ nominal GDP ก็อาจจะมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในระดับหนึ่ง แต่ไม่ทั้งหมด เนื่องจากมาตรการดังกล่าวถือเป็นเงินโอน ที่ช่วยในการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน แต่ไม่ได้ช่วยในเรื่องการสร้างงานเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวม 2 โครงการ โดยเฉพาะ "คนละครึ่ง" คาดว่าจะมีผลต่อ GDP ประมาณครึ่งหนึ่งของ 0.4% หรือราว 0.2% ของ GDP
"ในแง่ของผลที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น อาจจะไม่ได้ 0.4% เป๊ะๆ เพราะเป็นมาตรการประเภทเงินโอน ซึ่งไม่ได้ช่วยสร้างงาน หรือ multiplier ในเรื่องของรายได้เพิ่ม แต่แน่นอนว่าจะมีการกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย แต่อาจจะมีการรั่วไหลบ้างจากสินค้านำเข้า บางจุด บางส่วน แต่คิดว่าจะช่วยในเรื่องของความเชื่อมั่น เพราะภาคธุรกิจเมื่อมองไปอีก 3 เดือนข้างหน้า ก็เห็นว่าจะเป็นปัจจัยเชิงบวก ผู้บริโภคเองก็มีพูดถึง ซึ่งเป็นบวกต่อความเชื่อมั่น...ผลจริงๆ จะมาก-น้อย ขึ้นกับการใช้จ่ายของประชาชนด้วย ต้องประเมินอีกที คงจะบวก แต่คงไม่น่าจะถึง 0.4%" โฆษก ธปท. ระบุน.ส.ชญาวดี กล่าวถึงกรณีมีการปรับ Outlook ของธนาคารพาณิชย์บางแห่งว่า เป็นการปรับตาม Outlook ของประเทศ ซึ่งธนาคารที่ถูกปรับ Outlook จะเป็นธนาคารที่มีความเชื่อมโยงกับภาครัฐมากกว่าแห่งอื่น จึงทำให้มีการปรับที่สอดคล้องกับ Outlook ของประเทศ
อย่างไรก็ดี หากพิจารณาฐานะของธนาคาร และการดำเนินงาน ถือว่ายังอยู่ในระดับที่เป็นปกติ