นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงิน บาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 32.38 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากปิดสัปดาห์ก่อนที่ระดับ 32.40 บาท/ดอลลาร์
โดยตั้งแต่คืนวันศุกร์ที่ผ่านมาเงินบาท (USDTHB) เคลื่อนไหวไร้ทิศทางที่ชัดเจน
สำหรับแนวโน้มเงินบาทนั้น โมเมนตัมการอ่อนค่าของเงินบาทยังมีกำลังอยู่ แต่อาจอ่อนกำลังลง หลังจากไม่สามารถอ่อนค่า ทะลุโซนแนวต้าน 32.50 บาท/ดอลลาร์ ได้อย่างชัดเจน ตามแรงขายเงินดอลลาร์ของผู้เล่นในตลาด ขณะเดียวกัน ดอลลาร์ก็เผชิญแรงกด ดันจากภาวะ US Government Shutdown และรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เริ่มกลับมาแย่กว่าคาด
"เรามองว่าเงินดอลลาร์ รวมถึงเงินบาท อาจเคลื่อนไหวไร้ทิศทางที่ชัดเจน จนกว่าจะรับรู้รายงานข้อมูลตลาดแรงงาน สหรัฐฯ ซึ่งอาจต้องเห็นความชัดเจนว่า ภาวะ US Government Shutdown จะสิ้นสุดลงเมื่อใด" นายพูน ระบุ
ในระยะสั้น เงินดอลลาร์อาจพอได้แรงหนุนบ้าง หากเงินเยนญี่ปุ่นอ่อนค่าลง จากพัฒนาการของการเมืองญี่ปุ่นล่าสุด ที่อาจได้ นายกฯ คนใหม่ คือ Sanae Takaichi ซึ่งมีแนวโน้มสนับสนุนการใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย หรือต้องการให้อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับ ต่ำ
นายพูน คาดว่า กรอบเงินบาทวันนี้จะอยู่ที่ระดับ 32.30-32.55 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยน อยู่ที่ระดับ 149.70 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 147.35 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1710 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.1738 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.436 บาท/ดอลลาร์
- กระทรวงพาณิชย์ จะรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) หรืออัตราเงินเฟ้อทั่วไป เดือนก.ย.68 ต้องติดตามว่าอัตราเงิน
- "อนุสรณ์" ห่วง "ชัตดาวน์สหรัฐ" ยืดเยื้อดันทอง แตะ 4,000 ดอลลาร์ พร้อมแจงการเก็บภาษีซื้อขายทองคำก็ไม่สามารถ
- ไทย-สหรัฐฯ เจรจาเทคนิคเสร็จแล้วเหลือกฎถิ่นกำเนิดสินค้า-นำเข้าเนื้อหมูยังไม่จบ ตั้งเป้าสรุปในสิ้นปี 68 ก่อนลงนาม
- "หอการค้าไทย" ชี้เศรษฐกิจโลก ขาลงจากปัญหารอบด้าน มอง "ภาษีทรัมป์" โอกาสใหม่เจรจาเอฟทีเอเสร็จเร็ว หนุน
- "อารดา" กางแผนขับเคลื่อนงานปีงบประมาณ 69 เตรียมลุยรับมือกฎเกณฑ์ใหม่สหรัฐ เรื่องกฎถิ่นกำเนิดสินค้า นำ AI มา
- ภาวะชัตดาวน์สหรัฐฯ ล่วงเข้าสู่วันที่ห้า ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติของทำเนียบขาวกล่าวว่า เขายังมองว่ามี
- ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญสัปดาห์นี้ ได้แก่ การหาข้อสรุปของสภาคองเกรสเรื่องงบประมาณเพื่อลดผลกระทบจาก
- สหรัฐฯ แสดงความหวังที่จะเสริมสร้างความสัมพันธ์กับญี่ปุ่นหลังจากที่พรรคร่วมรัฐบาลได้ลงคะแนนเสียงเลือกผู้นำคนใหม่
- สื่อของรัฐบาลจีนออกมาแสดงความกังวลในวันนี้ (4 ต.ค.) หลังจาก ซานาเอะ ทาคาอิชิ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวง
- นักวิเคราะห์จากหลายสำนัก ซึ่งรวมถึงโนมูระ ซิเคียวริตีส์ คาดการณ์ว่า การที่ "ซานาเอะ ทาคาอิจิ" มีจุดยืนสนับสนุน
การกระตุ้นเศรษฐกิจ จะเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นญี่ปุ่น และการที่เธอสนับสนุนการผ่อนคลายนโยบายการเงินและการคลังนั้น อาจลดโอกาส
ที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในการประชุมช่วงปลายต.ค.นี้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนตลาดหุ้นเช่นกัน