สหรัฐฯ ชัตดาวน์ครั้งใหม่ ดันทอง $4,000 แค่เอื้อม!!

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday October 7, 2025 11:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สหรัฐฯ ชัตดาวน์ครั้งใหม่ ดันทอง $4,000 แค่เอื้อม!!

บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง จำกัด (HSH) ชี้กรณีรัฐบาลสหรัฐฯ ประสบภาวะชัตดาวน์ฉุดความเชื่อมั่น ส่งผลเศรษฐกิจโลกสั่นคลอน ดันทองคำทะลุแนวต้าน 3,900 ดอลลาร์/ออนซ์ และกรอบบาทละ 60,000 บาท

โดยประเมินจากข้อมูลทางสถิติภาวะชัตดาวน์ครั้งที่ 1 และ 2 กินระยะเวลาเพียงแค่ช่วงสั้น ๆ และเกิดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ ซึ่งแตกต่างกับครั้งที่ 3 ที่ยืดเยื้อยาวนานถึง 35 วัน สะท้อนให้เห็นว่าตราบใดที่สหรัฐฯ ยังอยู่ในภาวะชัตดาวน์ ราคาทองอาจปรับตัวลงได้ยาก

ในทางกลับกัน แม้รัฐบาลจะสามารถบรรลุข้อตกลงด้านงบประมาณได้ ราคาทองก็มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ เพราะนักลงทุนยังคงมีความกังวลต่อผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว ดังนั้นแนวโน้มที่ราคาทองคำจะอยู่เหนือระดับ 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือทองคำแท่งในประเทศบาทละ 61,500 บาทขึ้นไป มีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูง

ทั้งนี้ในปี 2568 ราคาทองโลกพุ่งแรงกว่า 1,350 ดอลลาร์ หรือราว 51% ทำจุดสูงสุดที่ 3,977.34 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่งในประเทศแตะจุดสูงสุดที่ 61,000 บาทต่อบาททองคำ (ณ วันที่ 7 ต.ค.68 เวลา 09.16 น.) ยืนยันบทบาททองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยของนักลงทุนทั่วโลก

ความตึงเครียดระหว่างรัสเซีย-ยูเครน และตะวันออกกลางยังเป็นฉนวนเสี่ยง แต่แรงส่งรอบล่าสุดมาจาก "วิกฤตการเมืองสหรัฐฯ" หลังสภาคองเกรสไม่ผ่านงบประมาณ จนทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะชัตดาวน์ (Government Shutdown) ตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งฉุดความเชื่อมั่นตลาด กดดันดอลลาร์สหรัฐฯ และหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ ราคาทองจึงทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้งในช่วงเริ่มชัตดาวน์ ขณะที่นักลงทุนต่างคาดการณ์ว่ามีโอกาสที่เฟดจะลดดอกเบี้ยเร็วขึ้น สืบเนื่องจากสภาพแวดล้อมและข้อมูลทางเศรษฐกิจล่าช้าหรือเลื่อนประกาศออกไป เพราะหน่วยงานรัฐปิดทำการ

ต้นตอของภาวะชัตดาวน์เกิดจากความล่าช้าในการผ่าน Continuing Resolution (CR) สะท้อนความแตกแยกเชิงโครงสร้างทางการเมืองสหรัฐฯ ฝั่งเดโมแครตยืนยันผูกงบฯ กับการขยายเงินอุดหนุนเบี้ยประกันสุขภาพภายใต้ ACA เพื่อช่วยเหลือครัวเรือนรายได้น้อย ขณะที่รีพับลิกัน (นำโดยประธานสภาผู้แทนราษฎร ไมค์ จอห์นสัน) ต้องการผลักดันงบชั่วคราวถึง 21 พฤศจิกายน 68 โดยไม่พ่วงนโยบายอื่นและแยกถกเรื่องสาธารณสุขต่างหาก

การปิดหน่วยงานรัฐทำให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางราว 750,000-850,000 คน ต้องถูกพักงานชั่วคราวโดยไม่ได้รับค่าจ้าง (ประมาณ 400 ล้านดอลลาร์/วัน) ส่วนเจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศ (ATC) และสำนักงานความปลอดภัยการขนส่ง (TSA) ยังต้องทำงานต่อไปโดยไม่ได้รับค่าตอบแทน ขณะเดียวกันข้อมูลสำคัญจากสำนักงานสถิติแรงงาน (BLS) ทั้งตัวเลขการจ้างงานรายเดือนและอัตราเงินเฟ้อก็อาจถูกเผยแพร่ล่าช้าออกไป ส่งผลให้ภาคธุรกิจ นักลงทุน ผู้กำหนดนโยบายมองภาพไม่ชัดเจน และทำให้ความผันผวนในตลาดการเงินสูงขึ้น ซึ่งเอื้อต่อสินทรัพย์หลบภัยอย่างทองคำ

*ยิ่งชัตดาวน์ยืดเยื้อ ทองคำยิ่งทรงตัวแข็งแกร่ง

ความน่าจะเป็นล่าสุดชี้ให้เห็นว่า การชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐฯ อาจยืดเยื้อกินเวลาโดยเฉลี่ยราว 11 วัน ทั้งนี้ นักลงทุนส่วนมากเชื่อว่ามีโอกาสสูงถึง 67% ที่รัฐบาลจะกลับมาเปิดทำการหลังวันที่ 15 ตุลาคม 68 โดยมีการประเมินความน่าจะเป็น ดังต่อไปนี้

- รัฐบาลสามารถเจรจาหาทางออก โดยใช้เวลา 4-9 วัน ความน่าจะเป็นอยู่ที่ 4%

- รัฐบาลสามารถเจรจาหาทางออก โดยใช้เวลา 10-29 วัน ความน่าจะเป็นอยู่ที่ 66%

- รัฐบาลสามารถเจรจาหาทางออก โดยใช้เวลามากกว่า 30 วัน ความน่าจะเป็นอยู่ที่ 27%

*ทองคำ-หุ้น พาเหรดนิวไฮ ไม่ใช่เรื่องปกติ

ขณะที่ข้อมูลจาก Forbes สะท้อนภาพความผิดปกติแต่เกิดขึ้นจริงในปี 2567-2568 เมื่อทองคำและหุ้นสหรัฐฯ ทำสถิติสูงสุดพร้อมกันหลายครั้ง ซึ่งพบได้ไม่บ่อยนัก เพราะทองคำมักพุ่งขึ้นเมื่อความเสี่ยงเพิ่ม แต่หุ้นมักพุ่งขึ้นเมื่อตลาดมีความเชื่อมั่น หรือมีความชัดเจน

โดยในปี 2568 เกิดเหตุการณ์ที่ทองคำและหุ้นทำจุดสูงสุดในวันเดียวกันแล้ว 6 ครั้ง และเมื่อปี 2567 เกิดขึ้นถึง 10 ครั้ง ขณะที่ตลอดช่วงปี 2513-2566 เกิดเพียงสองครั้งเท่านั้น (ในปี 2515) ถือเป็นเครื่องบ่งชี้ความแปลกตาทางสถิติในรอบครึ่งศตวรรษ และเข้ากับบรรยากาศความไม่แน่นอนล่าสุดจากภาวะชัตดาวน์ที่เกื้อหนุนฝั่งทองคำ

การที่สินทรัพย์ทั้งสองประเภทนี้ปรับขึ้นพร้อมกัน จึงสะท้อนปัจจัยขับเคลื่อนหลายประการที่สอดคล้องกัน ตั้งแต่ดอลลาร์อ่อนค่าลง ความไม่แน่นอนด้านเศรษฐกิจและนโยบาย รวมทั้งการที่นักลงทุนกระจายความเสี่ยงพร้อมกันทั้งฝั่งเสี่ยงและฝั่งหลบภัย

*ย้อนสถิติราคาทองตอบรับภาวะชัตดาวน์อย่างแข็งแกร่ง

ทั้งนี้ เมื่อย้อนดูราคาทองกับภาวะชัตดาวน์สมัยทรัมป์ 1 จะพบว่า

- ครั้งที่ 1 วันเสาร์ที่ 20-วันจันทร์ที่ 22 มกราคม 2561 (3 วัน) หลังจากเปิดทำการ 1 สัปดาห์ราคาทองโลกปรับตัวขึ้น 17.8 ดอลลาร์

- ครั้งที่ 2 วันศุกร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2561 (ภายในวัน) หลังจากเปิดทำการ 1 สัปดาห์ราคาทองโลกปรับตัวขึ้น 28.1 ดอลลาร์

- ครั้งที่ 3 วันเสาร์ที่ 22 ธันวาคม 2561-วันศุกร์ที่ 25 มกราคม 2562 (35 วัน) ราคาทองในช่วง 35 วันปรับเพิ่มขึ้น 25.3 ดอลลาร์(จาก 1,255.3 ดอลลาร์สู่ 1,280.8 ดอลลาร์) และหลังจากเปิดทำการ 1 สัปดาห์ ราคาทองโลกปรับตัวขึ้น 36.4 ดอลลาร์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ