Krungthai COMPASS คาดว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) อาจพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 1.25% เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจเพิ่มเติมหากแนวโน้มเศรษฐกิจชะลอกว่าที่คาด จากผลของข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลเต็มที่ต่อเนื่องจนถึงกลางปี 2569 โดยเฉพาะเกณฑ์ด้าน Regional Value Content ที่ปัจจุบันยังไม่ได้ข้อสรุป
"มีความเป็นไปได้ที่ กนง. จะพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติมสู่ระดับ 1.25% ภายในปี 2568 หากแนวโน้มเศรษฐกิจชะลอกว่าที่คาด อีกทั้งผลจากข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลเต็มที่ต่อเนื่องจนถึงกลางปี 2569 โดยเฉพาะเกณฑ์ด้าน Regional Value Content ที่ปัจจุบันยังไม่ได้ข้อสรุป" บทวิเคราะห์ ระบุKrungthai COMPASS มองว่า ปัจจุบันนโยบายการเงินยังสามารถผ่อนคลายได้เพิ่มเติม โดยเฉพาะในปี 69 ที่ กนง. คาดว่า GDP จะขยายตัวที่ 1.6% ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่าศักยภาพ และอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปัจจุบันยังใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ย 15 ปีย้อนหลังที่ 1.74% และหากพิจารณาอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่แท้จริงของไทย ซึ่งใกล้เคียงระดับ 0.7% ไม่ได้แตกต่างมากนัก เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศในภูมิภาค แต่แนวโน้มเศรษฐกิจไทยมีความเสี่ยงด้านต่ำที่สูงกว่า
ในระยะข้างหน้า ต้องติดตามความเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจกระทบต่อผู้ประกอบการเพิ่มเติม โดยเฉพะกลุ่มเปราะบางที่มี margin ต่ำและ SMEs โดยนับตั้งแต่ต้นปี 2568 ค่าเงินบาทแข็งค่าเป็นลำดับต้น ๆ ของภูมิภาค และมีความเสี่ยงแข็งค่าเกินกว่าปัจจัยพื้นฐาน แม้ว่าที่ผ่านมา ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะมีการดูแลค่าเงินบาทต่อเนื่อง สะท้อนจากเงินสำรองระหว่างประเทศสุทธิ (Net International Reserves) ที่แตะระดับสูงสุดที่ 2.9 แสนล้านบาท
นอกจากนี้ แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐในระยะข้างหน้าที่ยังผันผวนจากทิศทางเศรษฐกิจ และเงินเฟ้อที่ไม่แน่นอนจะส่งผลต่อส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย และกดดันค่าเงินบาทอีกทางหนึ่ง
อนึ่ง การประชุม กนง.รอบล่าสุด เมื่อวันที่ 8 ต.ค.68 ที่ประชุมมีมติ 5 ต่อ 2 ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ 1.50% ต่อปี จากเศรษฐกิจที่ขยายตัวใกล้เคียงที่คาดการณ์ และนโยบายการเงินที่ทยอยส่งผ่าน ท่ามกลางเงินเฟ้อที่ต่ำลง
โดย กนง. ประเมิน GDP ปี 2568 ขยายตัวใกล้เคียงกับที่คาดการณ์ไว้ที่ 2.2% จากเดิมคาดไว้ที่ 2.3% ขณะที่ปี 2569 ปรับลดลงจากเดิมที่ 1.7% เป็น 1.6% โดยการส่งออกจะเริ่มชะลอตัวจากมาตรการภาษี ต่อเนื่องจนถึงช่วงครึ่งปีแรกของปีหน้า ประกอบกับภาคการผลิตที่แผ่วลง อุปสงค์ในประเทศทรงตัว ขณะที่การท่องเที่ยวทยอยฟื้นตัวได้บ้าง ซึ่ง กนง. มองว่านโยบายการเงินปัจจุบันอยู่ในระดับผ่อนคลาย และอยู่ในช่วงทยอยส่งผ่านผล จึงรักษา policy space เพื่อรองรับความเสี่ยงระยะข้างหน้า ด้านอัตราเงินเฟ้อทั่วไปต่ำกว่าคาด และจะอยู่ในระดับต่ำกว่ากรอบเป้าหมายจนถึงปี 2570