กยท. ดันแบรนด์ RAOT บุกตลาดจีน หนุนยางพาราไทยสู่ตลาดโลก

ข่าวเศรษฐกิจ Sunday October 12, 2025 13:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กยท. ดันแบรนด์ RAOT บุกตลาดจีน หนุนยางพาราไทยสู่ตลาดโลก

นายเพิก เลิศวังพง รักษาการแทนผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) หรือ RAOT พร้อมด้วยนายโกศล บุญคง รองผู้ว่าการด้านบริหาร กยท. และผู้แทนสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง เดินหน้าหารือหน่วยงานสำคัญของเมืองชิงเต่า สาธารณรัฐประชาชนจีน มุ่งขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุน ผลักดันยางพาราไทยสู่ตลาดโลก

นายเพิก กล่าวว่า กยท. ได้ประชุมหารือกับ Qingdao Rubber Circulation Industry Association พร้อมร่วมกันผลักดันโอกาสทางการค้าและร่วมกันหารือเชิงลึก โดยมุ่งประเด็นไปที่ผลักดันการสร้าง "แบรนด์ RAOT" เพื่อใช้เป็นเครื่องหมายรับรองมาตรฐานยางพาราจากสถาบันเกษตรกรไทย ตลอดจนสนับสนุนให้โรงงานของสถาบันเกษตรกรที่มีความพร้อม สามารถขึ้นทะเบียนในตลาดยางของจีนได้อย่างเป็นระบบ

กยท. ดันแบรนด์ RAOT บุกตลาดจีน หนุนยางพาราไทยสู่ตลาดโลก

โดยมี Qingdao Rubber Circulation Industry Association ซึ่งเป็นสมาคมฯ ที่ดูแลเครือข่ายผู้ใช้ยางพาราขนาดใหญ่ ร่วมเป็นพันธมิตรสำคัญช่วยเปิดช่องทางตรงให้ยางพาราคุณภาพจากไทย สามารถเข้าถึงผู้ซื้อรายใหญ่ในจีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

พร้อมกันนี้ คณะจาก กยท. ได้เข้าพบ Mr. GAO Shanwu ตำแหน่ง Director of Administrative Committee of Free Trade Zone Qingdao Area โดยหารือแนวทางการส่งเสริมการค้าการลงทุนด้านอุตสาหกรรมยางระหว่างไทยและจีน ณ เขตการค้าเสรีเมืองชิงเต่า โดยประเด็นสำคัญที่หารือร่วมกัน คือ กยท. มีแนวคิดในการร่วมมือจัดตั้งเขตการค้าเสรี (Free Trade Zone) ในประเทศไทย เพื่อเป็นกลไกเสริมความแข็งแกร่งด้านการค้าตลอดห่วงโซ่มูลค่า ลดต้นทุนธุรกิจ และอำนวยความสะดวกต่อการลงทุนระหว่าง 2 ประเทศ

กยท. ดันแบรนด์ RAOT บุกตลาดจีน หนุนยางพาราไทยสู่ตลาดโลก

นอกจากนี้ ยังได้หารือถึงความร่วมมือในการขยายตลาดท่อส่งน้ำจากยางพาราของไทย รวมถึงการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีการผลิต เพื่อยกระดับมาตรฐานสินค้า และตอบสนองความต้องการของตลาดจีนด้วย

ทั้งนี้ สำหรับเขตการค้าเสรีเมืองชิงเต่า (Qingdao Free Trade Zone) ถือเป็นพื้นที่สำคัญ เป็นส่วนหนึ่งของเขตการค้าเสรีนำร่องมณฑลซานตง มีพื้นที่ 52 ตารางกิโลเมตร คิดเป็น 43.3% ของพื้นที่เขตการค้าเสรีทั้งหมดในมณฑล ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางด้านการค้า โลจิสติกส์ และการเงินในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน อีกทั้งมีมูลค่าการนำเข้า-ส่งออก สูงที่สุดเมื่อเทียบกับเขตการค้าเสรีทั้ง 3 แห่งในซานตง พร้อมทั้งเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมเกิดใหม่ เช่น การผลิตอุปกรณ์ไฮเอนด์ และวัสดุใหม่

นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่เชื่อมต่อกับท่าเรือชิงเต่า ซึ่งเป็นศูนย์กลางนำเข้ายางพาราที่ใหญ่ที่สุดของจีน จึงทำให้เขตการค้าเสรีแห่งนี้มีบทบาทอย่างยิ่งในการ หมุนเวียนและแปรรูปสินค้ายางพารา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ