ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 32.53 แข็งค่าสุดในภูมิภาค รอปัจจัยใหม่ คาดกรอบพรุ่งนี้

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 32.53 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจาก ช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 32.62 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทแข็งค่าตามทิศทางเดียวกับสกุลเงินในภูมิภาค เป็นการแข็งค่าสุดในภูมิภาค โดยระหว่างวันเคลื่อนไหวใน กรอบ 32.42-32.64 บาท/ดอลลาร์ โดยวันนี้เงินบาทยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามามากนัก ส่วนใหญ่เป็นเพียงการย่อยข่าวถ้อยแถลงของ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกอบกับราคาทองคำยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

"วันนี้ยังไม่มีปัจจัยใหม่ ตลาดย่อยข่าวถ้อยแถลงของเจอโรม พาวเวล ซึ่งทำให้ดอลลาร์อ่อนค่า ประกอบกับราคาทองคำ ยัง พุ่งขึ้นต่อเนื่องซึ่งหนุนให้บาทยิ่งแข็งค่า และวันนี้ก็แข็งค่าสุดในภูมิภาค" นักบริหารเงินระบุ

คืนนี้ ไม่มีการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ โดยตลาดยังคงติดตามพัฒนาการของการชัตดาวน์หน่วยงานราชการ ของสหรัฐฯ ตลอดจนติดตามสถานการณ์ราคาทองคำโลก รวมทั้งถ้อยแถลงจากเจ้าหน้าที่เฟด สาขาต่าง ๆ ที่ทยอยออกมาในช่วงนี้

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้ เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.40-32.60 บาท/ดอลลาร์

ปัจจัยสำคัญ

เงินเยน อยู่ที่ระดับ 151.41 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานอยู่ที่ระดับ 151.36 เยน/ดอลลาร์
เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1630 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานอยู่ที่ระดับ 1.1610 ดอลลาร์/ยูโร
ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ 1,286.69 จุด เพิ่มขึ้น 20.31 จุด (+1.60%) มูลค่าซื้อขาย 46,484.63 ล้านบาท
สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,791.13 ล้านบาท
ดัชนีเชื่อภาคอุตสาหกรรม เดือนก.ย.68 อยู่ที่ 87.8 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า และเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นครั้งแรกใน

รอบ 7 เดือน ซึ่งการปรับตัวเพิ่มขึ้นนี้ เป็นผลมาจากความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้

กับภาคเอกชน, การส่งออกยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยเฉพาะอิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มอุตสาหกรรมการเกษตร รวมทั้งการลงทุนทางตรง

จากต่างชาติ (FDI) ยังเติบโตได้ดี

ครม.เศรษฐกิจ อนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในส่วนของการท่องเที่ยวในประเทศ โดยให้นำค่าใช้จ่ายจากการเดินทาง

ท่องเที่ยวไปหักค่าลดหย่อนในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ไม่เกินคนละ 20,000 บาท โดยเมืองหลัก หักค่าลดหย่อนไม่เกิน 1

เท่า ส่วนเมืองรอง หักได้ไม่เกิน 1.5 เท่า เริ่มโครงการตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค.-15 ธ.ค.นี้

ครม.เศรษฐกิจ ยังเห็นชอบแนวทางเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณของหน่วยงานราชการ และรัฐวิสาหกิจ โดยในปีงบ

ประมาณ 2569 นี้ ได้ตั้งเป้าหมายการเบิกจ่ายงบประมาณโดยจะกำหนด KPI แก่หัวหน้าส่วนราชการ ว่าต้องเบิกจ่ายงบประมาณไม่ต่ำ

กว่า 93% และงบลงทุน ต้องเบิกจ่ายไม่ต่ำกว่า 75%

ครม.เศรษฐกิจ ประเมินผลเบื้องต้นของการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะโครงการ "คนละครึ่ง พลัส" และ

โครงการกระตุ้นท่องเที่ยวในประเทศ ซึ่งคาดว่าทั้ง 2 โครงการรวมกันนี้ จะมีส่วนช่วยผลักดัน GDP ปีนี้ให้เพิ่มขึ้นได้อีก 0.4%

กระทรวงพาณิชย์ เผยการอนุญาตให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย ภายใต้ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจ

ของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 ในช่วง 9 เดือนของปี 68 (ม.ค.-ก.ย.) มีจำนวนทั้งสิ้น 770 ราย เพิ่มขึ้น 21% จากช่วงเดียวกันของปี

ก่อน คิดเป็นเงินลงทุนรวม 2.53 แสนล้านบาท โดยญี่ปุ่น ยังเป็นประเทศที่เข้ามาลงทุนในไทยสูงสุดเป็นอันดับ 1

ราคาทองคำพุ่งทะลุระดับ 4,200 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ เป็นครั้งแรก ทำสถิติสูงสุดใหม่ในวันนี้ (15 ต.ค.) ท่ามกลาง

ความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ที่กลับมาเพิ่มความไม่แน่นอนทั่วโลก พร้อมกับการคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้นว่า ธนาคารกลาง

สหรัฐฯ (เฟด) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก

รัฐบาลเวียดนาม ตั้งเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ของประเทศในช่วงปี 2569-2573 ให้ขยายตัวในอัตราที่

สูงถึง 10% ต่อปีขึ้นไป ซึ่งถือเป็นเป้าหมายที่สูงขึ้นอย่างก้าวกระโดดจากแผน 5 ปีฉบับปัจจุบัน (2564-2568) ที่ตั้งเป้าไว้เพียง 6.5-

7.0%

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ควรใช้ความระมัดระวังอย่างมาก เกี่ยว

กับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม เนื่องจากเงินเฟ้อของอังกฤษ มีแนวโน้มที่จะยังคงอยู่ในระดับสูงสุดในกลุ่มประเทศ G7 ทั้งในปีนี้ และ

ปี 69

คืนนี้สหรัฐฯ จะมีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีภาคการผลิตเดือนต.ค., รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ

(Beige Book) จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 32.53 แข็งค่าสุดในภูมิภาค รอปัจจัยใหม่ คาดกรอบพรุ่งนี้ 32.40-32.60