
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นำคณะประกอบด้วยนายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมว.การกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงฯ เข้าพบและหารือกับพันธมิตรทางการท่องเที่ยวของสาธารณรัฐประชาชนจีน อาทิ UTour, Caissa, Qunar, Tongcheng, China Comfort Tourism (CCT), China Travel Group (CTG), 6renyou, ZX-Tour, Hainan Airlines และ Air China พร้อมเข้าร่วมกิจกรรม "Amazing Thailand, Networking Dinner" เพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์กับพันธมิตรทางการท่องเที่ยวของจีนเดินทางเข้าร่วมงาน Amazing Thailand Networking Dinner ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน

ร.อ.ธรรมนัส เปิดเผยว่า การเดินทางมาพบปะพันธมิตรครั้งนี้มีเป้าหมายสำคัญเพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากผู้ประกอบการท่องเที่ยวของจีน โดยเฉพาะแนวทางกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางมาเยือนไทยเพิ่มขึ้น โดยตนได้เน้นย้ำถึง ความสำคัญของมาตรการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวว่า เรื่องนี้เป็นภารกิจสำคัญของรัฐบาลไทย เพราะให้ความสำคัญสูงสุดกับความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นชีวิตหรือทรัพย์สิน โดยได้มีการบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่า นักท่องเที่ยวที่มาเยือนประเทศไทยจะได้รับการดูแลอย่างดีที่สุดตลอดระยะเวลาที่พำนักในไทย
ร.อ.ธรรมนัส ยังเปิดเผยถึงมาตรการสนับสนุนสายการบินระหว่างประเทศว่า ได้มอบหมายให้กรมท่าอากาศยาน พิจารณามาตรการลดค่าบริการสำหรับสายการบินที่เปิดเส้นทางใหม่มายังประเทศไทย ทั้งค่าขึ้นลงอากาศยาน (Landing Charge) และค่าบริการที่เก็บอากาศยาน (Parking Charge) ณ ท่าอากาศยานของบมจ.ท่าอากาศยานไทย [AOT] ทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต หาดใหญ่ เชียงใหม่ และแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย เพื่อลดต้นทุนให้กับสายการบินระหว่างประเทศที่เปิดเส้นทางการบินใหม่และเพิ่มจำนวนเที่ยวบินมายังประเทศไทย
"มาตรการดังกล่าวจะเป็น แรงจูงใจสำคัญให้สายการบินต่างประเทศเพิ่มเที่ยวบินมายังประเทศไทย ซึ่งจะช่วยกระจายตัวนักท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจในภูมิภาคต่าง ๆ ของไทยให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง การพบกันครั้งนี้ถือเป็นการตอกย้ำความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างไทยกับจีนในด้านการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นภาคเศรษฐกิจหลักที่มีบทบาทสำคัญ เราต้องการให้จีนมั่นใจว่า ประเทศไทยพร้อมต้อนรับด้วยมาตรการที่ชัดเจน ทั้งเรื่องความปลอดภัย มาตรฐานการบริการ และการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว "ร.อ.ธรรมนัส กล่าวนายอรรถกร ได้กล่าวกับทางผู้ประกอบการท่องเที่ยวจีนช่วงหนึ่งว่า ในนามของรัฐบาลไทย เรามาเพื่อขอคำแนะนำจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจีนว่า อยากจะให้รัฐบาลไทยดำเนินการอย่างไรบ้าง เพราะการทำงานของตนยึดมั่นว่า ถ้าเราจะทำอะไรต้องมารับฟังจากผู้รู้ วันนี้เราต้องการส่งเสริมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว กระชับความสัมพันธ์ และผลักดันภาพลักษณ์ประเทศไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวคุณภาพระดับโลก การพบปะครั้งนี้ จึงไม่เพียงสร้างความเชื่อมั่นและความสัมพันธ์เชิงธุรกิจ แต่ยังมาแสดงให้เห็นว่า ประเทศไทยพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีน
"การหารือครั้งนี้ไม่เพียงเพื่อขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวระหว่างไทยจีน แต่ยังเป็นโอกาสสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวชาวจีน โดยประเทศไทยได้ดำเนินมาตรการด้านความปลอดภัย มาตรฐานการท่องเที่ยว และการคุ้มครองนักท่องเที่ยวอย่างเข้มงวด ทั้งในด้านการเดินทาง การบริการ การดูแลนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงการบูรณาการทำงานร่วมกันของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เพื่อให้ทุกท่านเที่ยวไทยได้อย่างสบายใจ ปลอดภัยทุกก้าว"นายอรรถกร กล่าวทั้งนี้ การเดินทางพบปะพันธมิตรจีนในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจเชิงรุกภายใต้นโยบาย "Big Impact, Act Fast" ซึ่งมุ่งสร้างผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจที่จับต้องได้ในระยะเวลาอันสั้น โดยเน้นการดำเนินงานแบบบูรณาการกับพันธมิตรสำคัญของจีนในทุกมิติ ทั้งสายการบิน แพลตฟอร์มออนไลน์ และบริษัทนำเที่ยวรายใหญ่ เพื่อเร่งฟื้นฟูและยกระดับตลาดนักท่องเที่ยวจีนสู่ประเทศไทยอย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ยังเป็นอีกก้าวสำคัญของการสร้าง "Strategic Connectivity" ระหว่างไทยและจีน ในโอกาสครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูต เพื่อยืนยันบทบาทของประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางคุณภาพของนักท่องเที่ยวจีน พร้อมผลักดันให้ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนของทั้งสองประเทศเติบโตอย่างรวดเร็ว มีพลัง และสร้างผลกระทบเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยในระยะยาว