นายวินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า สถานการณ์เศรษฐกิจไทย เดือนก.ย.68 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการส่งออกสินค้าที่ขยายตัวในระดับสูง ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 15 และการท่องเที่ยวภายในประเทศ ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนและจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ส่งสัญญาณชะลอตัว
ทั้งนี้ ยังจำเป็นต้องติดตามผลของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมถึงสถานการณ์ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ในหลายภูมิภาค ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย

- การบริโภคภาคเอกชน มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยเฉพาะการบริโภคในหมวดสินค้าคงทน: โดยปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ และปริมาณรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ ในเดือนก.ย.68 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 13.4% และ 18.3% ตามลำดับ
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ในเดือนก.ย.68 ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 50.7 เนื่องจากผู้บริโภคเชื่อว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ โดยเฉพาะโครงการ "คนละครึ่ง พลัส" และโครงการ "เที่ยวไทยคนละครึ่ง" จะช่วยให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวดีขึ้น อย่างไรก็ดี ผู้บริโภคยังมีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน และสถานการณ์ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ขณะที่รายได้เกษตรกรที่แท้จริง เดือนก.ย. ลดลง -16.3%
- การลงทุนภาคเอกชน มีสัญญาณทรงตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยการลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากปริมาณการนำเข้าสินค้าทุน ในเดือนก.ย.68 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 17.9% ขณะที่ปริมาณรถยนต์เชิงพาณิชย์จดทะเบียนใหม่ ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน -3.3% สำหรับการลงทุนภาคเอกชนในหมวดการก่อสร้าง สะท้อนจากปริมาณจำหน่ายปูนซีเมนต์ภายในประเทศ ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน -4.3%
- มูลค่าการส่งออกสินค้า ขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อน: โดยมูลค่าการส่งออกสินค้ารวมในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนก.ย.68 อยู่ที่ 30,970.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 19.0% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 15 ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวสูงสุดในรอบ 42 เดือน นับตั้งแต่เม.ย.65 ทั้งนี้ การส่งออกขยายตัวในอัตราเร่งขึ้นตามความชัดเจนของมาตรการภาษีนำเข้าต่างตอบแทนของสหรัฐฯ ประกอบกับสัญญาณการผ่อนคลายนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้บรรยากาศการค้าโลกฟื้นตัว ตามการขยายตัวของสินค้าในหมวดเครื่องโทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ
- ด้านอุปทาน โดยเฉพาะบริการด้านการท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวต่างชาติชะลอตัว ขณะที่การท่องเที่ยวภายในประเทศยังคงขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อน: โดยภาคบริการด้านการท่องเที่ยว ในเดือนก.ย.68 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยรวม จำนวน 2.24 ล้านคน ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน -11.3% ขณะที่การท่องเที่ยวภายในประเทศ มีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย จำนวน 21.6 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 4.1%
ขณะที่ภาคการเกษตร สะท้อนจากดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตร ในเดือนกันยายน 2568 ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน -3.2% ตามการลดลงในหมวดพืชผลสำคัญ อาทิ มันสำปะหลัง และข้าวโพด เป็นต้น อย่างไรก็ดี ผลผลิตยางพารา เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน สำหรับภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ในเดือนก.ย.68 ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 87.8 โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนสำคัญจากการจัดตั้งรัฐบาลที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคเอกชน และเอื้อต่อการขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนให้ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- เสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี: สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนก.ย.68 อยู่ที่ -0.72% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน อยู่ที่ 0.65% ส่วนสัดส่วนหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนส.ค.68 อยู่ที่ 64.6% ต่อ GDP ซึ่งยังอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลัง สำหรับเสถียรภาพภายนอกยังอยู่ในระดับที่มั่นคง และสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ สะท้อนจากทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนก.ย.68 ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูงที่ 273.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ