นางยาใจ ชูวิชา ประธานคณะจัดทำการสำรวจความเห็นประเด็นธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในวันลอยกระทงปี 54 ที่สำรวจจากประชาชนตัวอย่าง 1,224 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 1-5 พ.ย.ที่ผ่านมา ว่า มูลค่าการใช้จ่ายในวันลอยกระทงจะอยู่ที่ 8,100 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 16.5% เพราะประสบปัญหาน้ำท่วม ซึ่งถือเป็นยอดใช้จ่ายที่ต่ำที่สุดในรอบ 5 ปี นับตั้งแต่ปี 50 ที่มีมูลค่าการใช้จ่าย 8,200 ล้านบาท แต่หากไม่มีน้ำท่วมคาดการใช้จ่ายน่าจะอยู่ที่ 10,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 10.3%
"มูลค่าการใช้จ่ายที่หายไป 2,600 ล้านบาท เป็นผลมาจากเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีการใช้จ่ายในช่วงลอยกระทงค่อนข้างมาก ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม รวมทั้งจำนวนคนที่ต้องการไปลอยกระทงก็ลดลงจากปีก่อน โดยในปีนี้มีผู้ที่คาดว่าจะไปลอยกระทงเพียง 48.9% จากปีก่อนมี 52.7% และปี 52 มี 75.3%" นางยาใจ กล่าว
สำหรับเหตุผลที่ประชาชนไม่ไปลอยกระทงนั้น ผู้ตอบ 24.2% ระบุว่าเป็นเพราะน้ำท่วม, 23.1% ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย, 14.2% เศรษฐกิจไม่ดี, 8.3% ไม่มีอารมณ์ไปลอยกระทง และ 7.1% กลัวอันตราย ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการลอยกระทงเฉลี่ย 1,225 บาทต่อคน ลดลงจากปีก่อนที่มีค่าใช้จ่าย 1,390 บาทต่อคน โดยผู้ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมใช้จ่ายเฉลี่ย 944 บาทต่อคน และผู้ที่ไม่ได้รับผลกระทบใช้จ่ายเฉลี่ย 1,282 บาทต่อคน ส่วนราคาสินค้าเพิ่มขึ้นจากปีก่อนทุกรายการทั้ง กระทง พลุ อาหาร ดอกไม้ และค่าเดินทาง
ขณะที่นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า รัฐบาลจำเป็นต้องเร่งฟื้นฟูประชาชนทั่วไปให้เร็วที่สุดหลังน้ำลด เพราะหากประชาชนขาดสภาพคล่องจะเกิดปัญหาหนี้นอกระบบตามมา เนื่องจากคนทั่วไป หรือธุรกิจขนาดจิ๋วไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน หรือมาตรการช่วยเหลือของรัฐบาลได้ ดังนั้นรัฐบาลควรจัดให้มีการปล่อยกู้ขนาดเล็ก หรือไมโครไฟแนนซ์ เช่น กองทุนหมู่บ้าน หรือธนาคารชุมชน เพื่อให้เงินกระจายเข้าสู่พื้นที่ห่างไกลมากที่สุด