ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 32.47 แนวโน้มอ่อนค่า คาดกรอบวันนี้ 32.35-32.55

ข่าวเศรษฐกิจ Monday November 3, 2025 09:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงิน บาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 32.47 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงจากปิดสัปดาห์ก่อนที่ระดับ 32.30 บาท/ดอลลาร์

โดยตั้งแต่คืนวันศุกร์ เงินบาท (USDTHB) ทยอยอ่อนค่าลงต่อเนื่อง หลังดอลลาร์สหรัฐยังทยอยแข็งค่าขึ้น ตามการปรับลด ความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประกอบกับภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงินสหรัฐฯ ยัง ได้กดดันให้ราคาทองคำ (XAUUSD) พลิกกลับมาปรับตัวลดลงต่อเนื่อง

สัปดาห์นี้ ควรรอลุ้นรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ อาทิ ยอดการจ้างงานภาคเอกชน และ ดัชนี ISM PMI ภาคการ ผลิตและภาคการบริการ พร้อมติดตาม ถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด รวมถึง รายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียน

สำหรับแนวโน้มเงินบาทนั้น โมเมนตัมการอ่อนค่าของเงินบาทกลับมามีกำลังบ้าง หลังเงินดอลลาร์ทยอยแข็งค่าขึ้น พร้อมกับ จังหวะย่อตัวลงของราคาทองคำ แต่ทั้งนี้ การอ่อนค่าของเงินบาทอาจค่อยเป็นค่อยไป หลังตลาดต่างรอทยอยขายเงินดอลลาร์ หรือขายทำ กำไรสถานะ Short THB บ้าง

นายพูน คาดกรอบเงินบาทวันนี้จะอยู่ที่ระดับ 32.35-32.55 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 154.09 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 154.29 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1520 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.1560 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.325 บาท/ดอลลาร์
  • ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (31 ต.ค.)
ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ลดความคาดหวังเกี่ยวกับการปรับลดดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันศุกร์ (31 ต.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการปรับลดอัตรา
ดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อีกครั้งในปีนี้ แต่ราคาทองคำยังคงบวกต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน ทั้งนี้ สัญญาทองคำ
ตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 19.40 ดอลลาร์ หรือ 0.48% ปิดที่ 3,996.50 ดอลลาร์/ออนซ์
  • ราคาทองฟิวเจอร์ปรับตัวลงกว่า 20 ดอลลาร์ในช่วงเช้าวันนี้ (3 พ.ย.) หลังจากรัฐบาลจีนประกาศยุติการให้สิทธิ
ประโยชน์ภาษีทองคำ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคในประเทศจีน ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดทองคำรายใหญ่ของโลก โดยรัฐบาลจีนคาดว่า
การยกเลิกสิทธิประโยชน์ทางภาษีครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มรายได้ให้ภาครัฐในช่วงที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ซบเซา และเศรษฐกิจโดยรวมเติบโตช้า
ลง
  • กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอีกเล็กน้อยใน
เดือนธ.ค. แต่ได้ตัดสินใจระงับการปรับเพิ่มกำลังการผลิตในไตรมาส 1/2569 ซึ่งบ่งชี้ว่า กลุ่มโอเปกพลัส เริ่มชะลอแผนการทวงคืนส่วน
แบ่งตลาด เนื่องจากมีความกังวลเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด
  • ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ที่จะมีการรายงานในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและ
ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนต.ค., ดัชนีภาคการผลิต และภาคบริการเดือนต.ค. จากสถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM), ตัวเลขจ้างงาน
ภาคเอกชนเดือนต.ค., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนพ.ย. และการคาดการณ์เงินเฟ้อเดือน ต.ค.
  • นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการของเอเชียในวันนี้ ซึ่งรวมถึงดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนต.ค.ของ

ออสเตรเลีย และเกาหลีใต้ ซึ่งจะรายงานโดย S&P Global รวมทั้งดุลการค้า และอัตราเงินเฟ้อเดือนก.ย.ของอินโดนีเซีย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ