น.ส.ลลิดา เพริศวิวัฒนา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก และส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยล่าสุด กรมสรรพากร ได้ออกประกาศอธิบดีกรมสรรพากร (ฉบับที่ 456) เพื่อขยายสิทธิประโยชน์ทางภาษีให้แก่บุคคลธรรมดาที่เดินทางท่องเที่ยวใน "อำเภอของจังหวัดเมืองหลัก" ที่ได้รับสิทธิเทียบเท่า "เมืองรอง" ซึ่งสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการท่องเที่ยวมาหักลดหย่อนภาษีได้ในอัตราเท่ากับเมืองรอง
โดยพื้นที่ที่อยู่ในเกณฑ์ได้รับสิทธิลดหย่อนภาษี ครอบคลุม "อำเภอในเมืองท่องเที่ยวหลัก" หลายจังหวัด เช่น
- กระบี่ (เขาพนม, ปลายพระยา, ลำทับ)
- เชียงใหม่ (แม่แตง, แม่วาง, ดอยสะเก็ด, สันทราย, สารภี, อมก๋อย ฯลฯ)
- นครราชสีมา (วังน้ำเขียว, ปักธงชัย, พิมาย, สีคิ้ว, ด่านขุนทด, เสิงสาง ฯลฯ)
- ชลบุรี (บ้านบึง, พานทอง, พนัสนิคม, หนองใหญ่ ฯลฯ)
- สุราษฎร์ธานี (กาญจนดิษฐ์, ดอนสัก, พุนพิน, ไชยา, วิภาวดี ฯลฯ)
รวมถึง กาญจนบุรี, เพชรบุรี, พังงา, ระยอง, พระนครศรีอยุธยา, สระบุรี, ขอนแก่น, ฉะเชิงเทรา และสงขลา ซึ่งเป็นพื้นที่เพิ่มเติมที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวและบริการรองรับครบถ้วน
รองโฆษกรัฐบาล ระบุว่า มาตรการดังกล่าว มีผลตั้งแต่วันที่ 28 ต.ค.-15 ธ.ค.68 เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนใช้สิทธิท่องเที่ยวในช่วงปลายปีได้คุ้มค่ามากขึ้น ทั้งยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในภูมิภาค และกระจายรายได้สู่ชุมชนท้องถิ่น
"รัฐบาลเชื่อมั่นว่า การขยายสิทธิลดหย่อนภาษีในครั้งนี้ จะช่วยกระตุ้นการเดินทางภายในประเทศ เพิ่มการจับจ่ายในธุรกิจบริการรายย่อย และเป็นอีกแรงขับเคลื่อนสำคัญในการส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากให้เติบโตอย่างยั่งยืน" น.ส.ลลิดา กล่าว