นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงกรณีที่มีผู้ค้าที่เข้าร่วมโครงการ "คนละครึ่ง พลัส" บางรายปรับขึ้นราคาสินค้า โดยฉวยโอกาสอ้างว่าต้องบวกภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 7% ว่า พฤติกรรมดังกล่าวไม่ควรทำ เพราะการอ้างบวกภาษีเช่นนี้ไม่ต่างจากการขอขึ้นราคาสินค้า พร้อมกับย้ำว่าผู้ค้าไม่ควรจะบวกราคาสินค้าหรือขอคิดค่าบริการพิเศษใด ๆ เนื่องจากรัฐบาลได้เข้าไปช่วยเหลือทำให้ผู้ค้าสามารถจำหน่ายสินค้าและบริการได้มากขึ้นกว่าเดิมอยู่แล้ว ดังนั้น ผู้ค้าก็ต้องช่วยประชาชน และผู้บริโภคด้วยเช่นกัน
"กระทรวงการคลัง ได้ขอความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ให้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบราคาสินค้าที่ได้ตกลงกันไว้ตั้งแต่ต้น หากพบว่ามีการฉวยโอกาสขึ้นราคา ทางการจะเข้าไปตรวจสอบทันที" ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าว
โดยมาตรการลงโทษนั้น ปลัดกระทรวงการคลัง ระบุว่า หากยังไม่ถึงขั้นเข้าข่ายการทุจริต อาจจะใช้วิธีการตักเตือนก่อน พร้อมกับขอให้ประชาชนผู้บริโภคช่วยกันแจ้งเบาะแสเข้ามาได้ หากพบเห็นร้านค้าที่มีพฤติกรรมดังกล่าว
ส่วนกรณีแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี ที่จะเข้าร่วมในโครงการคนละครึ่ง พลัสนั้น ได้มีการลงทะเบียนเรียบร้อยแล้วในวันนี้ โดยมีรายงานว่า มีผู้ให้บริการรวม 4 รายเข้าร่วมโครงการ ได้แก่ Line Man, GrabFood, Robinhood และ ShopeeFood โดยประชาชนจะเริ่มใช้สิทธิผ่านแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี ได้ตั้งแต่วันที่ 7 พ.ย.นี้
สำหรับข้อมูลเมื่อเวลา 12.00 น. พบว่า มีร้านค้าที่ลงทะเบียนเข้าร่วมฟู้ดเดลิเวอรี่ แล้วทั้งสิ้น 40,722 ร้านค้า แบ่งเป็น
- Line Man จำนวน 22,831 ร้านค้า
- GrabFood จำนวน 15,544 ร้านค้า
- Robinhood จำนวน 590 ร้านค้า
- ShopeeFood จำนวน 1,757 ร้านค้า
ขณะที่ข้อมูลการใช้สิทธิโครงการคนละครึ่งพลัส ณ เวลา 17.00 น. วันนี้ มียอดใช้จ่ายรวมกว่า 12,541 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย จำนวน 6,348 ล้านบาท และเงินที่รัฐร่วมจ่าย จำนวน 6,192 ล้านบาท