นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 32.35 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าเล็ก น้อยจากเปิดตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 32.38 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวตามภูมิภาคและทิศทางตลาดโลก เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยชี้นำใหม่เข้า มา ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 32.32 - 32.41 บาท/ดอลลาร์
"บาทแกว่งตัวในกรอบแคบ ๆ และปรับตัวแข็งค่าตามสถานการณ์ราคาทองคำในตลาดโลก" นักบริหารเงิน กล่าวนักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันจันทร์ไว้ที่ 32.30-32.50 บาท/ดอลลาร์
ตลาดรอดูดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนพ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน, การคาดการณ์เงินเฟ้อเดือนต.ค. และตัวเลข จ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนต.ค.
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยน อยู่ที่ระดับ 153.43 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 153.10 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1530 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.1539 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ 1,302.91 จุด ลดลง 10.40 จุด (-0.79%) มูลค่าซื้อขาย 29,054.05 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 2,730.58 ล้านบาท
- นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย แถลงการณ์ถึงประเด็นการชิงยุบสภาฯ หากมีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยยืนยัน
ว่า ในฐานะนายกรัฐมนตรี จะปฏิบัติตามข้อตกลงกับพรรคประชาชน ทุกประการ ตามที่ได้แถลงต่อรัฐสภาไว้แล้วโดยจะยุบสภา ภายใน
120 วัน ซึ่งจะครบกำหนดวันที่ 31 ม.ค. 69
- นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน SET Government Roadshow 2025 ภายใต้หัวข้อ "Confidence in
Thailands Path Forward" เพื่อนำเสนอศักยภาพทางเศรษฐกิจของไทย และส่งสัญญาณความพร้อมของรัฐบาลไทยในการผลักดัน
นโยบายเศรษฐกิจ การคลัง และตลาดทุนให้เป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ
- รัฐบาลไทย-สิงคโปร์ ลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOC) ด้านการค้าข้าวในปริมาณสูงสุดไม่เกิน 1 แสนตันต่อปี ตลอดระยะ
เวลาความร่วมมือ 5 ปี ระหว่างการเยือนสิงคโปร์อย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีไทย ถือเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลไทยและรัฐบาล
สิงคโปร์ได้ร่วมกันจัดทำความร่วมมือดังกล่าวเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหาร และตอกย้ำบทบาทของไทยในฐานะผู้ผลิต/ผู้ส่งออกข้าว
รายสำคัญของโลก
- ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Nvidia ย้ำจุดยืนยังไม่มีการเจรจาใด ๆ ในขณะนี้เพื่อจำหน่ายชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) รุ่น
เรือธง "Blackwell" ให้กับประเทศจีน โดยอุปสรรคสำคัญยังคงเป็นมาตรการควบคุมการส่งออกของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่มีความกังวลว่า
เทคโนโลยีดังกล่าวอาจถูกนำไปใช้ในทางทหาร
- สำนักงานศุลกากรของจีน (GAC) เปิดเผยในวันนี้ (7 พ.ย.) ว่า ยอดส่งออกปรับตัวลง 1.1% ในเดือนต.ค. สวนทาง
กับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 3% นอกจากนี้ ยอดส่งออกของจีนยังปรับตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปีหรือนับตั้งแต่เดือนมี.
ค. 2567 เทียบกับในเดือนก.ย.ที่ยอดส่งออกพุ่งขึ้น 8.3% ซึ่งแข็งแกร่งสุดในรอบ 6 เดือน