นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง เตรียมเสนอที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) ภายในเดือนพ.ย.นี้ เพื่อพิจารณามาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ใน 3 มาตรการ ประกอบด้วย
1. การเพิ่มสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการ SMEs โดยเฉพาะการค้ำประกันสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่กำลังพิจารณาตั้งกองทุนเพื่อค้ำประกันสินเชื่อให้กับ SMEs โดยดึงเงินจากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) เข้ามาดำเนินการ ซึ่งจะเป็นส่วนที่เสริมการค้ำประกันของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)
"ขณะนี้ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ กำลังดูแพ็คเกจที่จะเข้ามาช่วยเสริมการค้ำประกันให้กับ SMEs เพิ่มเติมจาก บสย. โดยจะตั้งเป็นกองทุนขึ้นมา ดึงเงินจาก FIDF เข้ามาดำเนินการ โดยการค้ำประกันส่วนนี้ จะมี Target ชัดเจน เพื่อทำให้ SMEs เข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น เพราะตามข้อเท็จจริงแล้ว SMES ที่ไม่ได้รับสินเชื่อ เพราะสถาบันการเงินไม่ปล่อย เนื่องจากกังวลเรื่องความเสี่ยง ดังนั้น จึงมีการคิดกลไกค้ำประกันตรงนี้เพิ่มเข้ามา เพื่อช่วยให้สถาบันการเงิน กล้าที่จะปล่อยสินเชื่อมากขึ้น โดยกลไกการดำเนินการกำลังเร่งพิจารณาอยู่" รองนายกฯ และ รมว.คลัง ระบุ
ส่วนมาตรการที่ 2 จะมีมาตรการสนับสนุนด้านภาษีในมิติต่าง ๆ เพื่อทำให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ประกอบการไทย รวมถึงการเร่งคืนภาษีให้กับผู้ประกอบการด้วย โดยเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับกรมสรรพากร ขณะเดียวกันในส่วนของกรมศุลกากร ก็จะมีแนวทางในการสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้ประกอบการไทย และแก้ปัญหาสินค้าต่างชาติที่อาจจะทะลักเข้าไทยหลังจากมาตรการการค้าสหรัฐฯ มีผลบังคับ โดยตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 69 เป็นต้นไป กรมศุลกากร จะเริ่มเก็บภาษีนำเข้าจากสินค้ามูลค่าตั้งแต่ 1 บาทขึ้นไป ที่สั่งจากแพลตฟอร์มออนไลน์ที่มีร้านค้าอยู่ต่างประเทศ จะต้องเสียภาษีนำเข้า บวกกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 7% จากที่ก่อนหน้านี้ เคยยกเว้นภาษีนำเข้าให้กับสินค้าที่มีราคาไม่เกิน 1,500 บาท โดยเก็บเฉพาะภาษี VAT เพียงอย่างเดียว ซึ่งในช่วงสิ้นเดือน พ.ย.68 กรมศุลกากรจะเซ็น MOU กับแพลตฟอร์มออนไลน์ต่อไป
มาตรการที่ 3 จะใช้ระบบดิจิทัลในการสั่งซื้อสินค้าจาก SMEs ไทย ซึ่งถือเป็นแนวทางในการสนับสนุนสินค้าไทยผ่านมาตรการของรัฐบาล โดยจะเป็นความร่วมมือระหว่างกรมบัญชีกลาง สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
สำหรับความคืบหน้าในการเจรจาภาษีกับสหรัฐฯ นั้น นายเอกนิติ ระบุว่า เร็ว ๆ นี้กระทรวงพาณิชย์ เตรียมจะนัดหารือกับสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) เพื่อเจรจาเรื่องภาษีการค้าทั้งหมด ซึ่งถือเป็นการบูรณาการทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่อง โดยยืนยันว่ารัฐบาลยังดำเนินการเรื่องนี้ต่อ เพราะเป็นสิ่งที่ต้องทำ ซึ่งการดำเนินการเรื่องนี้ ต้องแยกประเด็นทางการเมืองกับการเจรจาภาษีการค้าออกจากกันให้ชัดเจน