นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้พบหารือกับ นายปาร์ค ยงมิน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะผลักดันให้การเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่ครอบคลุม ไทย-เกาหลีใต้ ประสบผลสำเร็จ เพื่อยกระดับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจสู่การเป็น "หุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์รอบด้าน" พร้อมเชิญนักลงทุนเกาหลีใต้เข้ามาลงทุนเพิ่มในไทย
รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า การเจรจา FTA ไทย-เกาหลีใต้ หรือ "ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่ครอบคลุม (Comprehensive Economic Partnership Agreement: CEPA) ไทย-เกาหลีใต้" ซึ่งกำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้ จะเป็นความตกลงที่ช่วยยกระดับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนของทั้งสองประเทศให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพิ่มเติมจากความตกลงการค้าเสรีที่ไทยและเกาหลีใต้มีอยู่เดิม ซึ่งมีความสำคัญมาก โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่บริบทเศรษฐกิจโลกในปัจจุบันที่มีความซับซ้อน และเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะเร่งเดินหน้าการเจรจา โดยมุ่งมั่นที่จะให้ได้ผลลัพธ์ที่เกิดประโยชน์ร่วมกัน (Win-Win)

นางศุภจี กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้เชิญชวนนักลงทุนจากเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นผู้นำแห่งนวัตกรรมและเทคโนโลยี โดยเฉพาะสาขาที่เกาหลีใต้มีความโดดเด่น อาทิ อุตสาหกรรมยานยนต์ พลังงานสะอาด ดิจิทัล และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เพื่อใช้ไทยเป็นฐานการผลิตและเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่การผลิตสินค้าของเกาหลีใต้ เพื่อส่งออกไปยังประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก
โดยปัจจุบัน มีนักลงทุนเกาหลีใต้เข้ามาลงทุนในไทยกว่า 400 บริษัท โดยเฉพาะบริษัทยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ อาทิ บริษัทฮุนได และบริษัท COSMAX ที่เป็นผู้นำด้านการผลิตสินค้าความงามของเกาหลีใต้ เกาหลีใต้จึงขอให้รัฐบาลไทย ช่วยดูแลและสนับสนุนการลงทุนของบริษัทเกาหลีใต้ในไทย
พร้อมยืนยันว่า รัฐบาลไทยมีนโยบายที่จะปรับปรุงกฎระเบียบต่าง ๆ ให้มีความโปร่งใส และอำนวยความสะดวกต่อนักลงทุนต่างชาติ นอกจากนี้ ไทยได้แสดงความพร้อมในการเข้าเป็นสมาชิก OCED และขอบคุณเกาหลีใต้ที่สนับสนุนไทยในเรื่องดังกล่าว
ในปี 2567 เกาหลีใต้เป็นคู่ค้าอันดับ 13 ของไทย การค้าระหว่างไทยกับเกาหลีใต้ มีมูลค่า 15,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออกไปเกาหลีใต้ มูลค่า 5,957 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และไทยนำเข้าจากเกาหลีใต้ มูลค่า 9,343 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับในช่วง 9 เดือนแรก (ม.ค.-ก.ย.68) การค้าสองฝ่ายมีมูลค่ารวม 11,685 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออกไปเกาหลีใต้ มูลค่า 4,435 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และไทยนำเข้าจากเกาหลีใต้ มูลค่า 7,250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ ผลิตภัณฑ์ยาง น้ำตาลทราย ผลิตภัณฑ์อลูมิเนียม แผงวงจรไฟฟ้า และน้ำมันสำเร็จรูป และสินค้านำเข้าสำคัญ อาทิ แผงวงจรไฟฟ้า เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ และเครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ