นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เผยความคืบหน้าโครงการแก้ปัญหาหนี้เสียผ่านกลไกการซื้อหนี้รายย่อยของบริษัทบริหารสินทรัพย์ (Asset Management Company : AMC) ว่า คณะกรรมการธนาคารฯ ที่มีนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เป็นประธาน ได้ให้นโยบายแล้วเมื่อวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยเห็นชอบในหลักการให้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่งเพื่อดำเนินการในรายละเอียด แต่คอนเซปต์ วิธีการ โครงสร้าง และกลุ่มลูกค้าได้รับความเห็นชอบแล้ว
ทั้งนี้ คณะกรรมการธนาคารฯ ได้มอบหมายให้คณะกรรมการชุดหนึ่งไปทำการศึกษาแล้วนำกลับมารายงานต่อที่ประชุมในเดือน ธ.ค.นี้ ซึ่งกำลังพิจารณารายละเอียด ไม่ว่าจะเป็น เรื่องของกลุ่มเกษตรกรที่อยู่ในข่ายจะอยู่ในช่วงอายุเท่าไหร่ ทำการเกษตรภาคไหนบ้าง และที่สำคัญเลยในเรื่องของ ธ.ก.ส.จะต้องมีพารทเนอร์เข้ามายกระดับในเรื่องของการพัฒนาอาชีพของเกษตรกร ทั้งเทคนิค รีสกิล หรือแม้กระทั่งการทำการตลาดทั้งในกลุ่มของอาชีพหลักของเขา ซึ่งเป็นในภาคการเกษตรนั้น ๆ แล้วก็อาจจะดูในเรื่องของมิติอื่น ๆ เพิ่มเข้ามา
ส่วนทุนเริ่มต้นอยู่ในฟังก์ชันของ ธ.ก.ส. คงไม่ได้ออกไปในมิติอื่นเหมือนกับธนาคารพาณิชย์ เพราะว่า ธ.ก.ส.มีรายละเอียดเยอะมาก ทั้งประเภทเกษตรกร ลักษณะการกู้ รวมถึงในเรื่องของหลักประกันต่าง ๆ ก็จะทำเป็นฟังก์ชันอยู่ในแบงก์ ซึ่งในส่วนนี้ขอรอรายละเอียดของคณะทำงานก่อน
ส่วนมูลหนี้ได้เสนอไปหลายออปชัน ซึ่งคณะทำงานจะพิจารณาแล้วเสนอบอร์ดอีกครั้ง ซึ่งจะดูในหลายมิติ ทั้งในเรื่องของลักษณะของพืช อายุเกษตรกร ความยาวนานของการเป็นหนี้ และเรื่องของหลักประกัน เพราะหลักประกัน ธ.ก.ส. มีถึง 28 หลักประกัน ก็ต้องดูว่าจะใช้ตัวไหนเข้ามาเป็นตัวเริ่มต้น ทั้งนี้ เชื่อว่าภายในเดือนหน้ารายละเอียดทั้งหมดก็เสนอกลับเข้าไปที่คณะกรรมการธนาคารฯ
"มูลหนี้เป้าหมาย เท่าที่ดูข้อมูลก็เป็นแสนราย ส่วนวงเงินขอดูอีกทีว่าต้องเอาตรงไหน โดยเดือนหน้าจะเข้าคณะกรรมการธนาคารฯ" นายฉัตรชัย กล่าวทั้งนี้ ธ.ก.ส.ไม่ได้ตั้งเป็นนิติบุคคล เป็นการปรับฟังก์ชันภายในของแบงก์เป็นกรณีเพื่อรองรับอันนี้เป็นพิเศษ
"คล้าย ๆ เป็นคอนเซปต์ AMC แต่ถามว่าใช่หรือไม่ ไม่ใช่ วิธีการปรับไม่เหมือน AMC แต่ว่ายึดหลักอย่างนโยบายที่ทางรัฐบาล โดยรองนายกฯ ให้นโยบายมา คือเราชุบชีวิตเกษตรกรให้สามารถที่จะให้กลับมามีอาชีพแข็งแรงได้ ทั้งในอาชีพเดิม อาชีพเสริม หรือว่าอาชีพใหม่ ซึ่งภายใต้พาร์ทเนอร์ ไม่ว่าจะผ่านเป็นตัวแทนต่าง ๆ ตัวแทนหัวขบวนของธนาคาร รายละเอียดเดี๋ยวรอรองนายกฯ แถลง" นายฉัตรชัย กล่าวส่วนการดึงคนนอกเข้ามาช่วยนั้นก็มีบางส่วนในองค์ความรู้ต่าง ๆ เพราะว่า ธ.ก.ส. ก็ต้องฟังคือ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholder) หลาย ๆ อย่าง เพราะเรามีความหลากหลายของลูกค้า หลากหลายวิธีการกู้ หลากหลายหลักประกัน ผลกระทบทางด้านราคาพืชผลทางการเกษตรไม่เหมือนกับธนาคารพาณิชย์ที่มีรายได้จากแหล่งอื่น แต่ไปก่อหนี้อีกแบบหนึ่ง แต่ของเราเป็นหนี้ที่อยู่บนอาชีพหลัก ซึ่งมองว่าเป็นอะไรที่ละเอียดอ่อน แล้วก็แตกต่างจากของธนาคารพาณิชย์ แตกต่างจากอุตสาหกรรม
"ก็ไม่เคยเจอเหมือนกัน ในความซับซ้อนที่ทั้งตัวบุคคล 28 หลักประกัน ประเภทของผลผลิต เทคนิคการผลิต รวมทั้งการตลาดต่าง ๆ แล้วเกษตรกร 1 คน ภายใต้ที่เป็นลูกค้า ธ.ก.ส. มานาน ก็จะมีหลายสัญญามาก ซึ่งภายใต้หลายสัญญามาก วิธีบริหารจัดการพืช หรือแม้กระทั่งหลักประกันที่แบคอยู่แต่ละสัญญาก็ไม่เหมือนกันอีก เกษตรกรแทบจะทุกคน ปลูกข้าวก็มีอีก 1 บัญชี อาจจะเลี้ยงไก่อีก 1 บัญชี ซึ่งซับซ้อนมาก" นายฉัตรชัย กล่าวผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า AMC เวลาเขามีการโอนหนี้หรือขายหนี้ออกไป แหล่งรายได้กับการเกิดหนี้คนละที่กัน แต่ ธ.ก.ส.แหล่งของรายได้คือตัวหนี้ ซึ่งค่อนข้างที่จะยากแล้วก็ละเอียดอ่อน ในการที่ว่าถ้าเกิดคุณโอนออกขายออก แล้วเกษตรกรเอาอะไรทำต่อ แล้วก็ภายใต้นโยบายเราไม่ได้ต้องการให้แบงค์ดีขึ้นหรือแบงค์แข็งแรง เราต้องการให้เกษตรแข็งแรงภายใต้ภาระที่แบงค์รับผลกระทบได้