ธปท.ยอมรับธุรกรรมทองส่งผลต่อค่าเงินบาท ส่วนปมทุนเทาดำเนินการเพิ่ม 2 มิติ

ข่าวเศรษฐกิจ Sunday November 23, 2025 15:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธปท.ยอมรับธุรกรรมทองส่งผลต่อค่าเงินบาท ส่วนปมทุนเทาดำเนินการเพิ่ม 2  มิติ

นายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การทำธุรกรรมเกี่ยวกับทองคำในปัจจุบันมีผลกระทบต่อค่าเงินค่อนข้างมาก โดยเฉพาะการซื้อขายทองคำเป็นเงินบาท ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้เงินบาทมีความผันผวนเพิ่มขึ้นในบางช่วง การซื้อขายทองคำด้วยสกุลเงินบาทส่งผลให้ร้านทองต้องบริหารความเสี่ยง ทั้งการทำธุรกรรมทองคำกับต่างประเทศ และการซื้อขายเงินตราต่างประเทศ (FX)

โดยปัจจุบัน ธปท.มีข้อมูลของร้านทอง เฉพาะกรณีที่ร้านทองทำธุรกรรมซื้อขายเงินตราต่างประเทศ (FX) กับธนาคารพาณิชย์ในประเทศ แต่ไม่มีข้อมูลหากร้านทองซื้อขายทองคำกับตลาดต่างประเทศ การทำธุรกรรม FX ผ่านบริษัทในเครือในต่างประเทศ รวมทั้งกรณีทำธุรกรรมด้วย crypto currency

ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า ขณะนี้ ธปท.อยู่ระหว่างการปรับประกาศกระทรวงการคลัง เพื่อให้ได้ข้อมูลมากขึ้นเพื่อติดตามผลกระทบต่อค่าเงิน และกำหนดนโยบายที่เกี่ยวข้องให้ตรงจุดต่อไป

"แย่กว่านั้นคือ ถ้าส่งออกทองคำไปกัมพูชา และเปลี่ยนเป็นคริปโท ผมว่ามีจริง เพราะไม่เห็นอะไรเลย ต้องขยับเข้าไปว่าจะดูอย่างไร บางส่วนเข้าใจธุรกรรม และกำกับมากขึ้นในส่วนที่ทำได้ โดยขยายบทบาทกำกับธุรกรรมซื้อขายดอลลาร์ทอง หลังจากธุรกิจทอง ไม่ได้มีอำนาจการกำกับ" นายวิทัย กล่าว

ส่วนแนวทางการจัดการทุนเทานั้นภายใต้กฎหมายปัจจุบัน ธปท.ไม่มีข้อมูล flow บาท โดยถ้ามีธุรกรรมต้องสงสัยจะนำส่งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เช่น ธุรกรรมเงินสดเกิน 2 ล้านบาท โดยการจัดการกับทุนเทานั้น ธปท.จะดำเนินการเพิ่มขึ้นใน 2 มิติ คือ

1.เพิ่มการมองเห็นข้อมูลเส้นทางเงินต้องสงสัยด้วยการใช้กฎหมาย/เกณฑ์ที่มีอยู่ (พ.ร.บ.สถาบันการเงิน และ พ.ร.บ.ระบบการชำระเงิน) เข้าไปกำกับให้สถาบันการเงิน ส่งข้อมูลธุรกรรมตามเงื่อนไขที่ ธปท.กำหนด เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคและป้องกันไม่ให้ภาคการเงินถูกใช้เป็นช่องทางในการทำทุจริต เช่น กรณีมีเงินก้อนใหญ่ถูกโอนเข้าและออกเกือบจะทันที หรือบัญชีที่ปรากฏอยู่บนเว็บไซต์พนันออนไลน์เพื่อดำเนินการต่อ หรือส่งข้อมูลเพื่อสนับสนุนการทำงานของ ปปง.ในการดำเนินการต่อไป​

2.ยกระดับการกำกับดูแลและการรู้จักลูกค้าของผู้ใต้กำกับ เช่น

- สำหรับธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ โดยจะออกหลักเกณฑ์ยกระดับการทำความรู้จักลูกค้า (KYC/CDD) ให้เข้มข้นขึ้น เพื่อจับจุดเสี่ยงและจัดการได้เร็ว รวมทั้งนำมาใช้ยกระดับการป้องกันต่อไป

- สำหรับผู้ให้บริการ e-Wallet และ Money Transfer Agent ยกระดับการกำกับดูแลเทียบเท่าธนาคารพาณิชย์ เช่น มี customer profiling ตรวจสอบระบบการตรวจจับธุรกรรมต้องสงสัย และ enforce เมื่อพบว่าผู้ให้บริการเกี่ยวข้องกับการทำผิดกฎหมาย

- สำหรับ Money Changers จะเพิ่มคุณภาพและความสามารถของผู้ให้บริการในการติดตามตรวจสอบธุรกรรมผิดปกติ รวมทั้งกำหนดมาตรฐานการให้บริการลูกค้าเพิ่มเติมต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ