สมาพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติของสหรัฐ (NFIB) เปิดเผยว่า ความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดเล็กในสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันในเดือนต.ค. ส่งสัญญาณบ่งชี้ว่า มุมมองแง่ลบที่มีต่อเศรษฐกิจเริ่มลดลง
ทั้งนี้ ดัชนีมุมมองแง่บวกของธุรกิจขนาดเล็กปรับตัวขึ้น1.3 จุด มาแตะ 90.2 จุดในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา แม้ว่าจะยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยตลอดทั้งปีซึ่งอยู่ที่ 91.1 แต่ดัชนีก็เคลื่อนไหวที่ระดับเฉลี่ย 88.6 ตลอดช่วงระยะเวลา 18 เดือนที่เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอยจนถึงเดือนมิ.ย. ปี 2552
อย่างไรก็ตาม บิล ดุนเคลเบิร์ก หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำ NFIB กล่าวว่า “ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำมากๆ โดยเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก 26% กล่วว่าปัญหาใหญ่ที่สุดของพวกเขาในขณะนี้คือ ยอดขายที่ย่ำแย่"
ขณะเดียวกัน มีดัชนี 2 ประเภทที่ปรับตัวขึ้นในระดับปานกลางในเดือนต.ค. คือ ดัชนีความคาดหวังว่าจะสถานการณ์ทางธุรกิจจะดีขึ้น 6 เดือนหลังจากนี้ ซึ่งปรับตัวขึ้น 6 จุดมาอยู่ที่ -16 และเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันหลังจากที่ทำสถิติต่ำสุดคือ -26 ไปเมื่อเดือนส.ค. ขณะที่ดัชนีมุมมองของเจ้าของธุรกิจที่คาดว่ายอดขายจะกระเตื้องขึ้นปรับตัวขึ้น 2 จุดมาแตะ -4%
ตัวเลขล่าสุดแสดงให้เห็นว่า ธุรกิจขนาดเล็กของสหรัฐมีมุมมองที่เป็นบวกเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพราะมุมมองสถานการณ์ธุรกิจและการขยายตัวของยอดขายจริงเลวร้ายลดลง อย่างไรก็ตาม สมาพันธ์ฯกล่าวว่า ดัชนีทั้ง 2 ตัวยังนับว่าติดลบอยู่มากและจัดอยู่ในระดับถดถอยด้วย
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ธุรกิจขนาดเล็กเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจสหรัฐ และมีส่วนในการจ้างงานถึงครึ่งหนึ่งของการจ้างงานแรงงานทั้งหมดในสหรัฐด้วย