นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) กล่าวว่า ราคาทองกลับมาเป็นทิศทางขาขึ้นในระยะสั้น เนื่องจากได้รับปัจจัยสนับสนุนจากหลายปัจจัยประกอบด้วยตลาดคาดการณ์ว่าโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะลดดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค.เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 80% จาก 50% ภายในหนึ่งสัปดาห์ เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าที่คาด ตลาดจึงคาดการณ์ว่าเฟดมีแนวโน้มจะกลับไปใช้นโยบายผ่อนคลายมากขึ้น
นอกจากนี้ข่าวเรื่องเทรนด์ดอกเบี้ยขาลง ยังถูกกระตุ้นหลังจากที่ Bloomberg News รายงานเมื่อวันอังคาร โดยอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดกับเรื่องนี้ว่า นายเควิน ฮัสเซ็ตต์ ที่ปรึกษาเศรษฐกิจทำเนียบขาว กลายเป็นตัวเต็งที่จะเป็นประธานเฟดคนต่อไป ขณะที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยน่าจะต่ำกว่าสมัยที่นายเจอโรม พาวเวลล์ เป็นประธานเฟด ปัจจัยดังกล่าวจึงหนุนทองในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ยให้กลับมาสู่ขาขึ้นอีกครั้ง
นอกจากนี้ ทองคำยังได้รับแรงหนุนเพิ่ม หลัง Deutsche Bank ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาทองคำในปี 2569 จาก 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เป็น 4,450 ดอลลาร์ โดยอ้างถึงกระแสเงินของนักลงทุนที่เริ่มคงที่และความต้องการของธนาคารกลางที่ต่อเนื่อง ขณะเดียวกันความตึงเครียดที่ไต้หวันก็ยังเป็นที่ต้องจับตามองซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สนับสนุนทองคำ
อย่างไรก็ดี แม้ปัจจุบันราคาทองคำจะปรับขึ้นมาในระดับสูงแต่ทั่วโลกยังคงให้ความสนใจ ล่าสุด YLG ได้มีโอกาสร่วมเสวนาในเวที Dubai Precious Metals Conference 2025 (DPMC 2025) ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของ YLG Group บนเวทีระดับนานาชาติ โดย YLG Group ขึ้นพูดในหัวข้อ "The Future of Precious Metals: Tariffs, Tokenisation and Trade Flows" ภายในงาน Dubai Precious Metals Conference 2025 (DPMC 2025) จัดขึ้นที่ Atlantis The Palm ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ งานนี้คือการรวมตัวของผู้กำหนดนโยบาย นักลงทุน ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน และผู้ทรงอิทธิพลในอุตสาหกรรมโลหะมีค่าจากทั่วโลก เพื่อแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ต่อทิศทางของทองคำและโลหะมีค่าในยุคใหม่ ตั้งแต่ประเด็นด้านภาษี การค้าระหว่างประเทศ การโทเคนไนซ์ (tokenisation) บทบาทที่เปลี่ยนไปของ bullion banks จนถึงทิศทางของ trade flows ในโลกเศรษฐกิจที่หมุนเร็วขึ้นทุกปี การได้มีส่วนร่วมในเวทีนี้ไม่เพียงตอกย้ำบทบาทของ YLG Group ในระดับสากล แต่ยังสะท้อนถึงภารกิจของ YLG ที่มุ่งขับเคลื่อนอุตสาหกรรมโลหะมีค่า ด้วยมาตรฐานใหม่ด้านความโปร่งใส ความยั่งยืน และประสิทธิภาพของซัพพลายเชน
"ภายในงานมีผู้เข้าร่วมงานจากทุกภูมิภาคทั่วโลก ซึ่งมีนักลงทุนทุกเจนเนอเรชั่นสะท้อนให้เห็นว่าทิศทางของทองคำยังคงได้รับความสนใจจากผู้คนทุกวัน และมั่นใจว่าในระยะยาว 1- 2 ปีทองคำจะเป็นขาขึ้นต่อไป แม้จะพักฐานเป็นระยะ" นางพวรรณ์ กล่าว