ครม.เศรษฐกิจ ไฟเขียวมาตรการเยียวยาน้ำท่วมใต้ พักหนี้-สินเชื่อฟื้นฟู-ซอฟท์โลน

ข่าวเศรษฐกิจ Monday December 1, 2025 16:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

คณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) วันนี้มีมติเห็นชอบมาตรการเพิ่มเติมเพื่อเยียวยาและฟื้นฟูผู้ประสบภัยจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง หลังจากนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะเดินทางลงพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อวานนี้ โดยเป็นชุดมาตรการที่ประกอบด้วย พักหนี้ทั้งเงินและดอกเบี้ยลูกหนี้ธนาคารพาณิชย์และธนาคารของรัฐ การให้สินเชื่อเพื่อการยังชีพและฟื้นฟูบ้านเรือนที่อยู่อาศัย รวมถึงสินเชื่อดอกเบี้ยผ่อนปรนสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) ครั้งที่ 6/2568 ว่า ภายหลังน้ำลด สิ่งที่ต้องทำคือการบูรณาการความช่วยเหลือทุกภาคส่วนเพื่อฟื้นฟูชีวิตประชาชนกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว ซึ่งมาตรการช่วยเหลือเยียวยาฟื้นฟู ได้แก่

1.การลดภาระหนี้ สินเชื่อผ่านความร่วมมือของธนาคารแห่งประเทศไทย สถาบันการเงินของรัฐ และสถาบันการเงินภาคเอกชน

- ช่วยเหลือด้วยมาตรการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นเวลา 12 เดือน โดยสถาบันการเงินเฉพาะกิจจะยกเว้นการคิดดอกเบี้ยในช่วงเวลาการพักชำระหนี้ รายละไม่เกิน 1,000,000 บาทต่อสถาบันการเงินเฉพาะกิจ

- การให้สินเชื่อเพื่อเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ เป็นสินเชื่อเพิ่มเติมภายใต้วงเงินกู้เดิมกับธนาคาร (ลูกหนี้เดิม) รายละไม่เกิน 1 แสนบาท ปลอดดอกเบี้ย 12 เดือนแรก

- การให้สินเชื่อเพื่อฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ วงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อราย ปลอดดอกเบี้ย 12 เดือนแรก

- การสนับสนุนเงินช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางที่ได้รับความเสียหาย การยกเว้นภาษีเงินได้

- เอสเอ็มอี ผู้ประกอบการจะมีซอฟต์โลน เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ โดยมี บสย.ค้ำประกันเพื่อประกอบธุรกิจได้

2.การเพิ่มเงินในกระเป๋าส่งเงินให้ประชาชนได้มีเงินในกระเป๋า

- สำหรับเงินเยียวยา 9,000 บาท เตรียมนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม.ในวันพรุ่งนี้ และหลังเข้าผ่านความเห็นชอบจาก ครม.แล้วจะเร่งเบิกจ่ายโดยเร็ว

- ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ขยายเงินทดลองเพื่อนำมาใช้จ่ายต่าง ๆ จำนวน 100 ล้านบาท เพื่อช่วยประชาชนที่เดือดร้อนในพื้นที่ ทั้งการจัดครัวจัดอาหารให้กับประชาชนเพื่อให้ประชาชนได้รับความช่วยเหลือโดยเร็ว

- การประกันสินทรัพย์ที่เสียหาย ทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับและและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) จะจ่ายค่าสินไหมทดแทนตามการเสียหายที่เกิดขึ้นจริงไม่เกิน 20,000 บาทสำหรับร้านค้าต่าง ๆ ส่วนผู้มีประกัน 30,000 บาท และรถยนต์เคลมเร็ว โดยให้ถ่ายรูปรถยนต์ให้เห็นทะเบียน ระดับน้ำ เพื่อให้เคลมรถยนต์ได้ทันที

- กระทรวงแรงงานจะพบกับผู้ประกอบการ โดยการจะช่วยเหลือแรงงานที่ไม่มีรายได้ เงินนำส่งประกันสังคมขอให้ขยายตัวเวลาเงินนำส่งประกันสังคมทั้งหมด

- ลูกจ้างจะจ่ายทดแทนกรณีว่างงาน 50% ของค่าจ้างเป็นเวลา 180 วัน

- สินเชื่อ เพื่อการจ้างงานให้กับผู้ประกอบการ ลูกจ้างไม่เกิน 200 คน กู้ได้ไม่เกิน 15 ล้านบาท

3.ลดภาระค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะสินค้าราคาถูก ธงฟ้าเยียวยา

- ขยายเวลาชำระภาษีทั้งหมด ผู้ประกอบการขอให้ลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

- ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับซ่อมแซมทรัพย์สินตามที่จ่ายจริงไม่เกิน 100,000 บาท

- ลดหย่อนภาษีซ่อมแซมรถตามที่จ่ายจริงไม่เกิน 30,000 บาท

- สำหรับผู้ประกอบการมีค่าใช้จ่ายซ่อมแซมทรัพย์สิน 2 เท่า

- ผู้บริจาคช่วยผู้ประสบภัยสามารถลดหย่อนภาษีได้

- กระทรวงพาณิชย์จะทำรายการธงฟ้า

4.ทำให้พื้นที่ประสบภัยฟื้นฟูกลับมาเข้มแข็ง

นายเอกนิติ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้ตั้งคณะกรรมการถอดบทเรียน โดยให้นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฯ เพื่อพิจารณาแนวทางแก้ปัญหาทั้งระยะสั้นและระยะยาว การเตรียมความพร้อม ให้กระทรวงการต่างประเทศจะขอความช่วยเหลือจากประเทศญี่ปุ่นที่ประสบปัญหาภัยพิบัติเพื่อวางระบบดูแลผู้ประสบภัยหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก สามารถนำบทเรียนนี้มาแก้ปัญหาทั้งระยะสั้น ระยะยาว ไม่ให้เกิดแบบปัญหาเดิม

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังมอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเตรียมแคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยว โดยให้หน่วยงานราชการไปจัดสัมมนาในพื้นที่น้ำท่วมหลังฟื้นฟูแล้ว เพื่อให้กระตุ้นการท่องเที่ยว ส่วนมาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปาฟรีนั้นทางกระทรวงมหาดไทยจะมีการพิจารณาเรื่องนี้

ด้านนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์จะดำเนินการ 3 ระยะ โดยระยะแรกทำทันที ทำไปแล้ว และยังทำอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน คือการส่งสินค้าอุปโภค บริโภค โดยเฉพาะพวกวัตถุดิบอาหาร เช่น ไข่ไก่ ข้าวสาร อาหารต่างๆ ลงไปเป็นวัตถุดิบที่โรงครัว ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็นเพราะทุกคนต้องได้รับการดูแลในเรื่องอาหารทันที และมีการส่งเข้าไปต่อเนื่อง โดยร่วมมือกับทางเอกชน และห้างต่างๆ ให้ช่วยกันลงไป และมีการส่งเงินลงไปช่วยตรงนั้นด้วย นี่คือการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนนอกเหนือจากการควบคุมราคาสินค้าให้ไม่แพงเกินไป และไม่ให้มีการกักตุนสินค้า สามารถมีสินค้าที่เพียงพอในการใช้งานในพื้นที่

ระยะที่ 2 เป็นช่วงที่เรากำลังเริ่มทำอยู่ขนานกันไปกับการเยียวยา โดยดูว่าจะทำอย่างไรให้ประชาชนสามารถเข้าถึงอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการซ่อมแซมบ้าน ยานพาหนะ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับไฟฟ้า ที่จะต้องใช้งาน ซึ่งเป็นอุปกรณ์จำเป็น ก็มีการประสานกับทางห้างต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบิ๊กซี โลตัส แม็คโคร รวมไปถึงห้างเฉพาะกิจ อย่างเช่น โฮมโปร เมกะโฮม ไทวัสดุ เมกะเฮ้าส์ ซึ่งจะร่วมลดราคาสูงสุด 80% เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงสินค้าเหล่านี้ ไม่ขาดแคน มีอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นสำคัญ เช่น เบรคเกอร์ สายไฟ หรือหัวเทียน และมีการร่วมมือกับทาง SCG ในการนำเอาอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้าน และช่างต่างๆ เข้าไปในพื้นที่ที่จะช่วยให้ได้

ระยะที่ 3 คือ มหกรรมธงฟ้า ซึ่งจะเป็นลักษณะพิเศษ โดยจะเน้นในเรื่องอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นสำคัญ นอกจากสิ่งอุปโภคบริโภคแล้ว จะมีการจัดจุดเคลื่อนที่เพื่อความสะดวกของประชาชน อีกทั้งมีการนำผู้ประกอบการที่เป็นลักษณะแฟรนไชส์ ลงไปเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ สร้างอาชีพ โดยที่กระทรวงพาณิชย์จะประสานกับกระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการช่วยสนับสนุนเงินค่าแฟรนไชส์บางส่วนด้วย

ขณะเดียวกัน ยังมีการเสริมสร้างการหาโอกาสให้เข้าถึงแหล่งทุน โดยที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าทำงานร่วมกับ SME เพื่อให้ผู้ประกอบการเล็ก สามารถเข้าถึงแหล่งทุนได้ และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า จะอำนวยความสะดวกในเรื่องของการขอใบรับรอง การจดทะเบียนบริษัท การขอใบอนุญาตต่างๆ เพื่อความรวดเร็ว โดยจะให้จังหวัดทำงานร่วมกับพาณิชย์ส่วนกลาง ในการให้ความสะดวกสบายกับผู้ประกอบกิจการทั้งหลาย เพื่อฟื้นฟูกิจการกลับมาทำการค้าได้อีก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ