นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมตรีและรมว.คมนาคม เปิดเผยว่า กรณีสายการบินกำหนดราคาตั๋วโดยสารเส้นทางดอนเมือง-หาดใหญ่แพงกว่าปกติในช่วงที่เกิดน้ำท่วมที่อำเภอ หาดใหญ่ จังหวัดสงขลานั้น ทางสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) หรือ กพท. ได้ชี้แจงว่า สายการบินไม่ได้เก็บค่าโดยสารเกินจากเพดานราคาตามประกาศอัตราค่าโดยสารสูงสุดไว้ ซึ่งราคาที่ขายอยู่ภายใต้ระเบียบสายการบิน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้ไปตรวจสอบและดำเนินการลงโทษสายการบิน เกิดจากที่ประธานหอการค้ามาฟ้องกับนายกฯ แต่เมื่อมีข่าวว่าราคาค่าโดยสารแพงมาก ก็ได้ให้ CAAT ตรวจสอบและได้โทรหารือกับนายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.บางกอกแอร์เวย์ส ในฐานะประธานสมาคมสายการบินแห่งประเทศไทยทันที ซึ่งได้รับการยืนยันว่าราคาที่กำหนดไม่เกินจากเพดานที่กฎหมายกำหนด จึงได้ขอร้องให้กำหนดราคาในช่วงที่เป็นเหตุการณ์วิกฤติให้ถูกลงได้หรือไม่ และให้สายการบินเพิ่มที่นั่งในเส้นทางที่มีความต้องการสูงได้หรือไม่เพื่อให้ราคาค่าโดยสารลดลง
ทั้งนี้ ทางประธานสมาคมสายการบินฯ ได้นำไปหารือกับสายการบินที่เป็นสมาชิกซึ่งล่าสุดสายการบินได้มีการเพิ่มที่นั่ง และเพิ่มเที่ยวบิน เพื่อให้รองรับกับความต้องการที่เพิ่มขึ้น และทำให้ราคาค่าโดยสารเริ่มลดลงตามไปด้วย โดยเริ่มมาตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นไปตามกลไกตลาดดีมานด์และซัพพลาย เมื่อมีที่นั่งมากขึ้น ราคาก็ลดลง หากยังคงขายราคาแพงอยู่ ผู้โดยสารก็ไปซื้อตั๋วสายการบินอื่นได้
"จากที่มีการรายงานการตรวจสอบพบว่า ช่วงน้ำท่วมหนัก ที่หาดใหญ่ ทุกสายการบินเพิ่มราคาขึ้น(ไม่เกินเพดานสูงสุด) แต่สายการบินแอร์เอเชีย มีราคาตั๋วแพงสุดในช่วงดังกล่าว"สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ซึ่งขณะนี้มีทิศทางคลี่คลายดีขึ้นอย่างรวดเร็ว พบว่ามีประชาชนและเจ้าหน้าที่จำนวนมากต้องการเดินทางเข้าพื้นที่หาดใหญ่ผ่านทางอากาศ เนื่องจากเป็นรูปแบบการเดินทางที่ใช้เวลาเดินทางน้อยและยังเปิดให้บริการได้ตามปกติ ทั้งเพื่อไปดูแลครอบครัวและทรัพย์สินที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงการเดินทางของเจ้าหน้าที่เพื่อสนับสนุนการช่วยเหลือผู้ประสบภัย
นายศรัณย เบ็ญจนิรัตน์ รองผู้อำนวยการ CAAT สายงานพัฒนาเศรษฐกิจการบิน ระบุว่า ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา มีการซื้อตั๋วโดยสารเกิดขึ้นจำนวนมากภายในระยะเวลาอันสั้น ส่งผลให้ที่นั่งราคาประหยัดและราคาปกติถูกจำหน่ายหมดอย่างรวดเร็ว ทำให้ที่นั่งที่เหลือในระบบเป็นที่นั่งราคาสูงตามโครงสร้างค่าโดยสาร ซึ่งเป็นไปตามกลไก Dynamic Pricing ที่สอดคล้องกับมาตรฐานการบริหารรายได้ของสายการบินสากลทั่วโลก ทั้งนี้ CAAT ได้ประสานสายการบินทุกรายให้พิจารณาขยายมาตรการช่วยเหลือผู้โดยสาร รวมทั้งบริหารจัดการราคาตั๋วโดยสารให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด เพื่อรองรับความจำเป็นในการเดินทางเข้าพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย
อย่างไรก็ดี เพื่อให้เกิดความชัดเจนและโปร่งใส CAAT ได้เชิญทุกสายการบินที่ให้บริการเส้นทางภาคใต้เข้าชี้แจงแนวทางปฏิบัติ ซึ่งสายการบินยืนยันว่า หากมีการยกเลิกเที่ยวบิน ผู้โดยสารจะได้รับความคุ้มครองตามข้อบังคับของคณะกรรมการการบินพลเรือน ฉบับที่ 101 โดยสายการบินต้องเสนอทางเลือกการคืนเงินเต็มจำนวน หรือเปลี่ยนแปลงเที่ยวบินโดยไม่มีค่าใช้จ่าย อย่างไรก็ตามหากเที่ยวบินไม่ได้ถูกยกเลิก แต่ผู้โดยสารไม่ประสงค์จะเดินทางในวันดังกล่าว สายการบินจะเปิดให้เปลี่ยนแปลงวันเดินทางได้ภายในช่วงเวลาที่กำหนดโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้งนี้สามารถติดต่อสายการบินได้โดยตรง และหากผู้โดยสารไม่ได้รับการคุ้มครองตามข้อบังคับ กบร.101 สามารถร้องเรียนได้ที่ complaint.caat.or.th
จากข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีที่ให้ตรวจสอบกรณีร้องเรียนว่าสายการบินยกเลิกเที่ยวบินเดิมและให้ผู้โดยสารซื้อบัตรโดยสารใหม่ในราคาสูงกว่าเดิมนั้น CAAT ได้ตรวจสอบข้อมูลข้อร้องเรียนทั้งหมดภายในระบบในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา พบว่า ยังไม่มีข้อร้องเรียนในลักษณะดังกล่าว ในทุกเส้นทางบิน และไม่พบพฤติกรรมเอาเปรียบผู้โดยสารจากการตรวจสอบหน้างานของสายการบินและท่าอากาศยาน แต่ CAAT จะยังคงตรวจสอบร่วมกับหน่วยงานอื่นที่รับเรื่องร้องเรียน เพื่อให้มั่นใจว่าการให้บริการเป็นไปตามกฎหมายและไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อประชาชน
CAAT ระบุว่า จะติดตามสถานการณ์ด้านราคา ปริมาณการเดินทาง และข้อร้องเรียนอย่างใกล้ชิด พร้อมดำเนินการตามอำนาจหน้าที่หากพบการฝ่าฝืนกฎหมาย รวมถึงเร่งประสานงานกับทุกสายการบินเพื่อให้การเดินทางเข้าพื้นที่ภาคใต้เป็นไปอย่างสะดวกที่สุดในช่วงฟื้นฟูจากสถานการณ์น้ำท่วม