กระทรวงการคลัง โดยกรมสรรพสามิต ปรับปรุงกฎกระทรวงการผลิตสุรา พ.ศ. 2568 เพื่อให้หลักเกณฑ์การขอใบอนุญาตมีความทันสมัยและเหมาะสมกับผู้ประกอบการทุกขนาด โดยยังคงยึดหลักคุ้มครองผู้บริโภค คุณภาพสินค้า และมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมอย่างครบถ้วน การปรับปรุงครั้งนี้เปิดโอกาสให้สหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน เกษตรกร และผู้ประกอบการรายย่อยเข้ามามีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมสุราได้มากขึ้น พร้อมส่งเสริมการใช้วัตถุดิบทางการเกษตรไทยและเชื่อมโยงสู่เศรษฐกิจฐานรากและเศรษฐกิจสีเขียว
นายพรชัย ฐีระเวช อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเมื่อวันที่ 25 พ.ย. 68 เห็นชอบและอนุมัติกฎกระทรวงการผลิตสุรา พ.ศ. 2568 เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์การขอใบอนุญาตผลิตสุราให้มีความเหมาะสมกับสภาวการณ์ในปัจจุบัน จากเดิมที่หลักเกณฑ์การขอใบอนุญาตผลิตสุราได้กำหนดมาตรฐานของโรงอุตสาหกรรมสุราแต่ละชนิดไว้ค่อนข้างสูงเพื่อควบคุมคุณภาพของสุรา คุ้มครองความปลอดภัยของผู้บริโภคและดูแลสิ่งแวดล้อม โดยได้มีการปรับปรุงมาตรฐานการผลิตสุราใหม่ให้เหมาะสมกับกิจการขนาดเล็ก ขนาดกลางและขนาดใหญ่ แต่ยังคงหลักการควบคุมคุณภาพของสุรา คุ้มครองความปลอดภัยของผู้บริโภค และดูแลสิ่งแวดล้อมเช่นเดิม เพื่อให้ผู้ประกอบการที่เป็นสหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน เกษตรกร หรือผู้ประกอบการรายย่อย เข้ามามีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมสุราได้อย่างยั่งยืน ทั้งนี้ กฎกระทรวงดังกล่าวได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาและมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 2 ธ.ค. 68
อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า การปรับปรุงหลักเกณฑ์การขอใบอนุญาตผลิตสุราครั้งนี้ มีการเพิ่มประเภทใบอนุญาตผลิตเบียร์และสุรากลั่นให้เหมาะสมกับผู้ประกอบการรายย่อย เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายให้กับผู้ผลิตสุราแช่ชนิดเบียร์สด รวมถึงการปรับปรุงข้อกำหนดด้านสถานที่ตั้งโรงอุตสาหกรรมสุรา เพื่อให้สอดคล้องกับศักยภาพของผู้ประกอบการรายย่อย โดยยังคงให้ผู้ประกอบการทุกประเภทต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ด้านสิ่งแวดล้อม สุขอนามัย และความปลอดภัยในการผลิต เช่น การมีระบบบำบัดน้ำเสีย และกระบวนการการผลิตสุรา เพื่อให้มั่นใจว่าการผลิตสุราเป็นไปตามมาตรฐานและปลอดภัยต่อผู้บริโภค และไม่กระทบกับสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ หลักเกณฑ์การขอใบอนุญาตผลิตสุราใหม่ ยังเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก และการใช้ผลผลิตทางการเกษตรในประเทศ โดยการสนับสนุนให้ใช้วัตถุดิบจากผลผลิตภาคการเกษตร เช่น ข้าว ข้าวโพด หรือผลไม้ต่าง ๆ เป็นวัตถุดิบในการผลิตสุรา ซึ่งรวมถึงสามารถใช้ผลผลิตทางการเกษตรแปรรูปเป็นวัตถุดิบในการผลิตสุรา เพื่อช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับสินค้าเกษตร และเป็นการสร้างรายได้หมุนเวียนภายในประเทศ นับเป็นการเชื่อมโยงระหว่างภาคการเกษตรและอุตสาหกรรมการผลิตสุราอย่างเป็นระบบ
พร้อมกันนี้ ได้วางกรอบเพื่อเปิดโอกาสให้เอทานอลที่ผลิตเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงซึ่งใช้ผลผลิตทางการเกษตรจากอ้อยและมันสำปะหลัง สามารถนำไปใช้ในอุตสาหกรรมที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว ซึ่งจะเป็นการสนับสนุนสินค้าเกษตรในประเทศอีกทางหนึ่งด้วย
อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า การกำหนดหลักเกณฑ์การขอใบอนุญาตผลิตสุราใหม่ในครั้งนี้ จะช่วยให้ผู้ประกอบการรายย่อยที่มีศักยภาพสามารถพัฒนาเป็นผู้ประกอบการผลิตสุราที่มีมาตรฐานในระดับที่สูงขึ้น เพื่อเป็นการยกระดับอุตสาหกรรมสุราของไทยให้มีมาตรฐานในระดับสากล กระทรวงการคลังโดยกรมสรรพสามิต จะยังคงดำเนินงานตามหลักธรรมาภิบาล ควบคู่กับการคุ้มครองผู้บริโภค รักษามาตรฐานเพื่อสังคม และส่งเสริมการเติบโตของผู้ประกอบการรายย่อยอย่างยั่งยืนต่อไป