นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงิน บาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 31.94 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากปิดสัปดาห์ก่อนที่ระดับ 32.03 บาท/ดอลลาร์
โดยตั้งแต่ช่วงคืนวันพฤหัสฯ ที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) ทยอยแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง สอดคล้องกับจังหวะการอ่อนค่าลงบ้าง ของเงินดอลลาร์ ที่มาพร้อมกับการทยอยปรับตัวสูงขึ้นของราคาทองคำ หลังผู้เล่นในตลาดยังคงมั่นใจว่า เฟดจะสามารถเดินหน้าลดดอกเบี้ย ได้ในการประชุม FOMC เดือนธันวาคมนี้
นอกจากนี้ เงินบาทยังถูกกดดันเพิ่มเติมจากโฟลว์ธุรกรรมน้ำมัน หลังราคาน้ำมันดิบพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง ท่ามกลางประเด็นความ ไม่แน่นอนของปัจจัยเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ ที่อาจกระทบต่อแนวโน้มอุปทานน้ำมันจากทั้งฝั่งรัสเซีย และเวเนซุเอลา
สำหรับแนวโน้มเงินบาท เนื่องจากประเทศไทยได้เข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว รวมทั้งประเมินว่า เฟดยังมีแนวโน้ม เดินหน้าลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ ทำให้ประเมินว่า เงินบาทมีแนวโน้มทยอยแข็งค่าขึ้นในลักษณะ Sideways Down และอาจจบสิ้นปี นี้ แถวโซน 31.85+/-0.25 บาทต่อดอลลาร์
ทั้งนี้ ประเด็นความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา ที่กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง อาจเป็นที่ติดตามของผู้เล่นในตลาดอย่างใกล้ชิด แต่ อาจเป็นเพียงแค่ Noise ในช่วงระยะสั้น และอาจไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินไทยมากนัก เนื่องจากผู้เล่นในตลาดต่างให้ความ สำคัญกับผลการประชุม FOMC เป็นหลัก
นายพูน คาดกรอบเงินบาทวันนี้ จะอยู่ที่ระดับ 31.80-32.00 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยน อยู่ที่ระดับ 155.03 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันพฤหัสที่ระดับ 154.90 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1650 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันพฤหัสที่ระดับ 1.1670 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท. อยู่ที่ระดับ 31.997 บาท/ดอลลาร์
- สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา กลับมาร้อนระอุอีกครั้ง หลังจากเมื่อบ่ายวานนี้ (7 ธ.ค.) ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อน ที่
และล่าสุดเช้าวันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคง ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อประเมินสถานการณ์ พร้อม เตรียมมาตรการรองรับความเสี่ยงต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น
- ดอลลาร์สหรัฐทรงตัวเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (5 ธ.ค.)
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์ก ปิดทรงตัวในวันศุกร์ (5 ธ.ค.) ท่ามกลางความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ
- สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างจีน-ญี่ปุ่น มีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยล่าสุดกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นเปิดเผยว่า
- นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันพุธที่ 10 ธ.ค.ตามเวลาสหรัฐฯ หรือ
- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่ตลาดจับตาในวันนี้ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2568 ของญี่ปุ่น
ขณะที่จีนเตรียมเปิดเผยดุลการค้าเดือนพ.ย., เยอรมนีเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค. และสหรัฐฯ เปิดเผยการคาดการณ์
เงินเฟ้อของผู้บริโภคเดือนพ.ย.