"ศุภจี" ชี้สหรัฐไม่ควรโยงประเด็นการค้ากับปัญหาไทย-กัมพูชา แย้มดีลเจรจาภาษีปิดไม่ทันปีนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday December 11, 2025 16:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีที่สหรัฐฯ อาจหยิบยกเหตุปะทะระหว่างไทย-กัมพูชาล่าสุด มากดดันเรื่องการเจรจาการค้าไทย-สหรัฐฯ ว่า การเจรจาไทย-สหรัฐฯ เป็นคนละเรื่องกับสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา และความขัดแย้งดังกล่าว ก็เป็นเรื่องระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งไทยจำเป็นต้องปกป้องอธิปไตย ดูแลความปลอดภัยของประชาชน และทหาร

ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศ ก็ได้ชี้แจงไปแล้วว่า ไทยไม่ใช่ฝ่ายเริ่มต้นเหตุการณ์ และไม่ใช่ผู้กระทำผิด การปฏิบัติการของไทยเป็นการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสีย

นางศุภจี กล่าวว่า ข้อมูลเหล่านี้นานาประเทศ รวมถึงสหรัฐฯ ก็ได้รับทราบแล้ว แต่หากสหรัฐฯ จะตัดสินใจนำเหตุการณ์ชายแดนมาเชื่อมโยงกับประเด็นทางการค้า ก็ถือเป็นสิทธิ์ของสหรัฐ แต่ไทยเห็นว่า ทั้ง 2 เรื่องไม่ควรเกี่ยวข้องกัน

"เราควบคุมเรื่องนี้ไม่ได้ แต่สหรัฐฯ ไม่ควรนำเรื่องที่เรามีประเด็นกับเพื่อนบ้านมาเกี่ยวข้องกับการเจรจาการค้า เพราะเป็นคนละเรื่องกัน ซึ่งเราทำทุกอย่างถูกต้องตามหลักการ และรักษาอธิปไตย ความปลอดภัยของประชาชน และทหาร เราต้องช่วยกันสื่อว่า สหรัฐฯ ไม่ควร เราต้องช่วยกันให้กำลังใจทหาร แต่ถ้าสหรัฐฯ จะคิดทำ เราก็ทำอะไรไม่ได้" นางศุภจี กล่าว

อย่างไรก็ดี กระทรวงพาณิชย์ ได้ส่งสัญญาณไปยังสหรัฐฯ โดยตลอดว่า ไทยมีความจริงใจและพร้อมเจรจาการค้าทุกเมื่อ หากสหรัฐฯ พร้อม ไทยก็พร้อมทันที แต่หากสหรัฐฯ ยังไม่พร้อม ก็ไม่ถือว่าไทยเสียหายใด ๆ เนื่องจากขณะนี้ไทยยังคงถูกเรียกเก็บภาษีตอบโต้ 19% เช่นเดิม และยังไม่มีทีท่าว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอัตราจัดเก็บ โดยขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ รวมถึงทีมเจรจา ก็ยังหารือกับทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง ยังไม่ได้หยุดดำเนินการใด

  • ดีลเจรจาภาษีสหรัฐฯ ส่อแววยืดต่อไปปีหน้า

รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า หากไม่สามารถปิดการเจรจากับสหรัฐฯ ได้ตามเป้าหมายภายในสิ้นปี 68 นี้ กระทรวงพาณิชย์ และรัฐบาลไม่ได้กังวล เพราะหากการเจรจาล่าช้าออกไป สหรัฐฯ จะไม่ได้ประโยชน์จากไทยอย่างที่ยื่นข้อเสนอไว้ในการเจรจากับไทย หรือจะได้ประโยชน์ล่าช้าออกไป

"ความล่าช้าของการเจรจา ไม่กังวล เพราะประเทศอื่น ๆ ก็ยังเจรจาไม่เสร็จเหมือนกัน อย่างอินโดนีเซีย ที่สหรัฐฯ ตั้งเป้าหมายจะจบให้ในเดือนพ.ย. 68 จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่จบ ส่วนไทยก็ไม่น่าจะทันสิ้นปีนี้ แต่ความล่าช้า จะดีตรงที่ทำให้ไทยสามารถรอคำตัดสินของศาลสูงสุดสหรัฐฯ ได้ และจะได้ใช้เป็นแนวทางการเจรจาต่อไป อีกทั้งยังได้รู้ข้อมูลของประเทศต่าง ๆ ที่เจรจาจบก่อนแล้วด้วย เพื่อไทยจะได้ไม่เสียเปรียบคู่แข่ง" นางศุภจี กล่าว

สำหรับกรณีที่ศาลสูงสุดสหรัฐฯ อยู่ระหว่างพิจารณาคดีว่า การใช้อำนาจประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อใช้มาตรการภาษีกับประเทศต่าง ๆ ว่าเป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขตของกฎหมายหรือไม่นั้น หากผลการตัดสินออกมาว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ ใช้อำนาจเกินขอบเขตของกฎหมาย และอาจจะต้องยกเลิกมาตรการภาษีนั้น ไทยก็ไม่ต้องเจรจากับสหรัฐฯ ต่อ ซึ่งทุกอย่างจะกลับมาเหมือนเดิม และไม่ต้องถูกเก็บภาษีตอบโต้ 19% รวมทั้งภาคเอกชน อาจต้องกลับมาคำนวณภาษีที่จ่ายไปแล้ว และดำเนินการขอคืนตามขั้นตอนเท่านั้น แต่หากรัฐบาลสหรัฐฯ ชนะคดี ก็จะต้องเจรจากับสหรัฐฯ ตามเดิม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ