นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 31.49 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าเล็กน้อย จากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 31.50/52 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวตามสถานการณ์ราคาทองในตลาดโลก ขณะที่ภูมิภาคเคลื่อนไหวอย่าง ไร้ทิศทางเนื่องจากตลาดยังขาดปัจจัยชี้นำ โดยตลาดรอดูทิศทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ซึ่งคืนนี้จะมีการประกาศดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงาน
ส่วนปัจจัยในประเทศ ตลาดรอดูมาตรการดูแลค่าเงินบาทของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หลังออกมาส่งสัญญาณหลัง การประชุมคณะกรรมการนโนยบายการเงิน (กนง.)
"บาทขยับแข็งค่าจากเย็นวานนี้เล็กน้อย ขณะนี้ภูมิภาคเคลื่อนไหวแบบผสม ตลาดรอดูตัวเลขเศรษบกิจของสหรัฐฯ คืนนี้" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 31.40-31.60 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยน อยู่ที่ระดับ 155.73 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 155.50 เยน/ดอลลาร์
- เงินเยน อยู่ที่ระดับ 1.1736 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1720 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท. อยู่ที่ระดับ 31.468 บาท/ดอลลาร์
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) คาด กนง.จะปรับลดดอกเบี้ยอีกระลอกสู่ระดับ 1% หลังหั่น GDP ปี 69 เหลือ 1.5% รับ
มือสงครามการค้า
- ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ระบุในปี 2568 การส่งออกไทยกลับมาเติบโตใน
ระดับสูง และเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์หลักขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยคาดว่าการส่งออกทั้งปีนี้จะขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่า 10%
- ส.อ.ท.ผวาความเสี่ยงทางเศรษฐกิจทั้งการส่งออกชะลอตัว ค่าเงินบาทแข็ง ภัยธรรมชาติแนะรัฐวางแผนรับมือ ขณะที่เอ็ก
ซิมแบงก์ มองส่งออกปีหน้าโตแค่ 0-2% ชี้บาทแข็งค่า 1 บาทฉุดกำไร 2%
- ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยภาพรวมสถานการณ์ท่องเที่ยวของตลาดนักท่องเที่ยวระยะไกล
ว่ายังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งและมีทิศทางที่สดใสอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2568 ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวจาก
ตลาดระยะไกลเดินทางเข้ามาสะสมทะลุ 10 ล้านคนเป็นครั้งแรก ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ สะท้อนถึงการฟื้นตัวของ
อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยอย่างชัดเจนหลังสถานการณ์โควิด-19
- "แสวง" ย้ำไม่มีเลื่อนวันเลือกตั้ง ยันแม้สู้รบไทย-กัมพูชาก็ จัดคูหาให้หย่อนบัตรได้ คุยวางแผนรับสถานการณ์พิเศษแล้ว จ่อ
เปิด 16 เขตเลือกตั้งใน 7 จว. พื้นที่สู้รบ ใช้วิธีเลือกตั้งแบบพิเศษเพื่อไม่ต้องเลื่อนวันเลือกตั้ง ยันพร้อมทำประชามติวันเลือกตั้ง แต่รอ
รัฐบาลประกาศวันชัดเจน เตือนพรรค-ผู้สมัครหาเสียงแก้รัฐธรรมนูญได้ แต่ห้ามชี้ควรเห็นชอบ-ไม่เห็นชอบ ส่วนเวทีประชามติห้ามหาเสียง
ล้ำเส้นเสี่ยงผิด กม.
- โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวว่า ทูตพิเศษฝ่ายกิจการเอเชียของกระทรวงการต่างประเทศจีน จะเดินทางไปยัง
ไทยและกัมพูชาอีกครั้งในวันนี้ (18 ธ.ค.) โดยมีเป้าหมายเพื่อประสานกับทั้งสองฝ่ายและฟื้นฟูสันติภาพโดยเร็วที่สุด
- นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กล่าวว่า ไทยและกัมพูชาได้ตกลงที่จะเข้าร่วมการประชุมพิเศษระดับรัฐมนตรีต่างประเทศอา
เซียน ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 22 ธันวาคม ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ เพื่อทำการเจรจาป้องกันไม่ให้สถานการณ์ตึงเครียดตามแนวชายแดนทวีความ
รุนแรงมากขึ้น
- ธนาคารกลางชั้นนำของโลกถึง 3 แห่ง ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) และธนาคารกลาง
ญี่ปุ่น (BOJ) จะมีการจัดการประชุมนโยบายการเงินครั้งสุดท้ายของปี 2568 ในสัปดาห์นี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางทั้ง 3
แห่งจะมีการตัดสินใจด้านอัตราดอกเบี้ยแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงในการประชุมรอบนี้ โดยคาดกันว่า ECB จะประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
ที่ระดับ 2.15% ขณะที่ BOE จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย สู่ระดับ 3.75% หลังเงินเฟ้อชะลอตัว ส่วน BOJ จะประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย
จากระดับ 0.50% หลัง BOJ เปิดเผยว่า ภาคเอกชนของญี่ปุ่นเตรียมปรับขึ้นค่าจ้างในปีงบการเงิน 2569 ในอัตราเดียวกับปี 2568
- กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย.ปรับตัวขึ้น 64,000 ตำแหน่ง สูงกว่า
ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 50,000 ตำแหน่ง แต่อัตราว่างงานในเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.6% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน
ก.ย. 2564 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.5% ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนอันเนื่องมาจากนโยบายการค้าที่แข็ง
กร้าวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (17 ธ.ค.) ฟื้น
ตัวหลังจากที่อ่อนค่าลงติดต่อกัน 2 วันทำการ ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางต่าง ๆ ในสัปดาห์นี้ รวมถึง
ธนาคารกลางอังกฤษและยุโรป
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ (17 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก หลังมีสัญญาณบ่งชี้ถึงความอ่อนแอของตลาดแรงงาน นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่
ปลอดภัย ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และเวเนซุเอลา
- ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ วันนี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.
ย., ดัชนีการผลิตเดือนธ.ค.จากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟีย และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนต.ค.และพ.ย.จาก
Conference Board
- นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับแนวโน้มเงินเฟ้อ
และทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด