แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กลุ่ม "นครชัยแอร์" เป็นผู้เสนอราคาประมูลต่ำสุดในโครงการเช่ารถโดยสารประจำทางปรับอากาศพลังงานสะอาด (EV) จำนวน 1,520 คันเมื่อวานนี้ ซึ่งกำหนดราคากลาง 15,355.6 ล้านบาท อายุสัญญา 7 ปี เริ่มทยอยส่งมอบรถได้ปลายปี 69 คาดว่าจะว่าจ้างให้บมจ.เน็กซ์พอยท์ [NEX] เป็นผู้ประกอบรถให้บางส่วนหรือทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้มีรายงานข่าวว่ากลุ่ม บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ [BTS] เจรจาเข้าไปร่วมกิจการกับกลุ่มนครชัยแอร์ เพื่อเข้ามาต่อยอดในกลุ่มธุรกิจ MOVE ของ BTS แต่ยังไม่มีการยืนยันจากทาง BTS
ในวันนี้คณะกรรมการจัดทำร่างขอบเขตงาน (TOR) โครงการเช่ารถโดยสารประจำทางปรับอากาศ EV องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ (ขสมก.) ได้พิจารณาผลการประมูล E-Bidding ที่มีขึ้นเมื่อวานนี้ และพิจารณาคุณสมบัติของผู้เสนอราคาต่ำสุดดังกล่าว
สำหรับ TOR โครงการนี้กำหนดราคากลางอัตราเช่า 19.70 บาท/กม./วัน/คัน อ้างอิงจาก 4 บริษัท ได้แก่ บริษัท นครชัยแอร์ จำกัด,บริษัท เฟิสท์ทรานสปอร์ต จำกัด, บริษัท พนัสแอสเซมบลีย์ จำกัด และ NEX
รายละเอียดสาระสำคัญในร่าง TOR ในส่วนคุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอ ได้แก่ ต้องมีความสามารถตามกฎหมาย ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย ไม่อยู่ระหว่างเลิกกิจการ โดยต้องลงทะเบียนที่มีข้อมูลถูกต้องครบถ้วนในระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (e-GP)ของกรมบัญชีกลาง
ต้องมีคุณสมบัติอย่างใดอย่างหนึ่งคือ 1.มีผลงานการให้เช่าหรือเช่าพร้อมซ่อมบำรุงรถยนต์หรือรถโดยสารวงเงินไม่น้อยกว่า1,000 ล้านบาท/สัญญา เป็นผลงานในสัญญาเดียวเท่านั้น และเป็นสัญญาที่มีเอกสารยืนยันการทำงาน เช่น สัญญาจ้าง เป็นต้น โดยต้องเป็นผลงานที่เป็นคู่สัญญาโดยตรงกับหน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานเอกชนที่ ขสมก.เชื่อถือ หรือ เป็นผู้มีรายได้จากการเช่าหรือเช่าพร้อมซ่อมบำรุงรถยนต์หรือรถโดยสารหรือประกอบกิจการขนส่งผู้โดยสารวงเงินไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท/ปี อ้างอิงเอกสารที่ยื่นกับกรมสรรพากร
นอกจากนี้ผู้ยื่นข้อเสนอราคาต้องส่งคุณลักษณะเฉพาะของรถโดยสารที่นำเสนอ ระบุยี่ห้อรุ่นของรถโดยสารระบบอัดประจุไฟฟ้าพร้อมทำตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติที่เสนอตามข้อกำหนดของ ขสมก.หากไม่จัดทำข้อมูลตารางเปรียบเทียบให้ครบถ้วนถือว่าขาดคุณสมบัติ
ด้านหัวข้อขอบเขตของงานหรือรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะ ได้แก่ 1.ต้องจัดหารถโดยสารประจำทางปรับอากาศ EV จำนวน 1,520 คัน และระบบอัดประจุไฟฟ้า มีระยะเวลาการเช่า 7 ปี
2.ต้องจัดให้มีประกันภัยรถโดยสารสาธารณะประเภท 3 และประกันภัยภาคบังคับตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถพ.ศ. 2535
3.ต้องเพิ่มความคุ้มครองค่าเสียหายส่วนแรกในกรณีที่ ขสมก.เป็นฝ่ายผิด ครอบคลุมถึงรถโดยสารทรัพย์สินและผู้โดยสารโดยจ่ายตามจริงในวงเงินไม่เกิน 10,000 บาทต่อครั้ง
กำหนดระยะเวลาการส่งมอบภายในระยะเวลา 360 วัน งวดที่ 1 ส่งมอบ 500 คันและระบบอัดประจุไฟฟ้าจะต้องมีหัวจ่ายไม่น้อยกว่า 144 หัวภายใน 180 วัน, งวดที่ 2 ส่งมอบ 500 คันและระบบอัดประจุไฟฟ้าต้องมีหัวจ่ายไม่น้อยกว่า 144 หัวภายใน 270 วัน, งวดที่ 3 ส่งมอบ 520 คันและระบบอัดประจุไฟฟ้าจะต้องมีหัวจ่ายไม่น้อยกว่า 146 หัวภายใน 360 วัน
ผู้เสนอราคาจะต้องยืนราคาไม่น้อยกว่า 180 วันนับตั้งแต่วันเสนอราคา กำหนดค่าปรับกรณีไม่ส่งมอบรถตามกำหนดแต่ละงวดจะปรับตามจำนวนรถโดยสารที่ส่งไม่ครบเป็นรายวัน 0.20% ของราคารถที่ยังไม่ได้ส่งมอบ และต้องชดเชยความเสียหายจากการขาดรายได้ค่าโดยสาร 10,000 บาท/คัน/วัน ส่วนระบบอัดประจุไฟฟ้าที่ส่งไม่ครบเป็นรายวันปรับ 0.20% ของราคาระบบอัดประจุไฟฟ้าต่อวันตามจำนวนที่ส่งไม่ครบ
คุณลักษณะเฉพาะของรถโดยสารปรับอากาศ EV ดังนี้
- ด้านคุณสมบัติทั่วไป เป็นรถพลังงานไฟฟ้าพื้นต่ำ (Low Floor) ความยาวตัวรถไม่นอยกว่า 10.5 เมตรขับเคลื่อนรถโดยสารมีน้ำหนักบรรทุกรวม (GVW) ไม่น้อยกว่า 17,000 กิโลกรัม เป็นรถใหม่ไม่เคยใช้งานมาก่อน มีค้อนทุบกระจกไม่น้อยกว่า 6 อัน , เครื่องดับเพลิงอย่างน้อย 4 เครื่อง, ติดตั้งม่านบังแสงแดดแบบหีบแพลงหรือแบบชักเป็นวัสดุอย่างดีไม่ลามไฟ, มีที่นั่งผู้โดยสารที่นั่งสำหรับผู้พิการและที่นั่งพับเก็บได้ไม่รวมคนขับรวมกันไม่น้อยกว่า 31 ที่นั่ง
- เป็นรถโดยสารมีความสูงไม่น้อยกว่า 3.35 เมตร, โครงสร้างและผนังทุกด้านต้องผ่านกระบวนการ Salt Spray Test โครงสร้างตัวรถต้องป้องกันสนิมโดยวิธีเคลือบสังกะสีแบบจุ่มร้อน (Hot-dip galvanized) ทั้งคัน, ต้องเป็นโครงคัสซีใหม่ทำด้วยโลหะแข็งแรงตลอดความยาวของตัวถังรถและต้องมีอุปกรณ์ส่วนควบเมื่อต่อตัวถังแล้วสามารถรับน้ำหนักเต็มอัตราบรรทุกได้ทุกสภาพการใช้งานของรถ เป็นต้น
- ระบบขับเคลื่อน ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าไม่มีเครื่องยนต์ไม่มีเชื้อเพลิงกำลังมอเตอร์รวมกันไม่น้อยกว่า 159กิโลวัตต์ (maximum power) รถโดยสารทำความเร็วสูงสุดได้ไม่น้อยกว่า 70 กิโลเมตร/ชั่วโมง
- ชนิดและขนาดของแบตเตอรี่และชุดควบคุมของแบตเตอรี่ที่ใช้ขับเคลื่อนมีความจุไม่น้อยกว่า 250 กิโลวัตต์และสามารถวิ่งได้ที่ระยะทางทำการไม่ต่ำกว่า 200 กิโลเมตร/การอัดประจุไฟฟ้าเต็มหนึ่งครั้งตลอดอายุสัญญา
ผู้ยื่นข้อเสนอจะต้องจัดหาระบบอัดประจุไฟฟ้าซึ่งประกอบไปด้วยตู้ควบคุมกำลังไฟฟ้า (Power Cabinet), เครื่องอัดประจุไฟฟ้า(EV Dispenser), หัวจ่าย (Connector) สายไฟสำหรับใช้ในการเชื่อมต่อตู่ควบคุมกำลังไฟฟ้าและเครื่องอัดประจุไฟฟฟ้าและระบบเทคโระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อควบคุมการอัดประจุไฟฟ้า (Software) ที่มีมาตรฐานสอดคล้องกับระเบียบ