ธปท.-คลัง-แบงก์พาณิชย์ ลุยกลไกค้ำสินเชื่อ "SMEs Credit Boost" ดีเดย์ 15 ม.ค.69 เพิ่มโอกาสเข้าถึงแหล่งทุน

ข่าวเศรษฐกิจ Friday December 26, 2025 14:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธปท.-คลัง-แบงก์พาณิชย์ ลุยกลไกค้ำสินเชื่อ

ภายใต้ภาวะที่เศรษฐกิจไทยเติบโตช้า หนึ่งในปัญหาเชิงโครงสร้างสำคัญที่ต้องเร่งแก้ไข คือ การหดตัวต่อเนื่องของสินเชื่อธุรกิจ โดยเฉพาะสินเชื่อ SMEs ที่ติดลบ 13 ไตรมาสติดต่อกัน จากทั้งความต้องการสินเชื่อธุรกิจที่ลดลง และความระมัดระวังของธนาคารพาณิชย์ในการปล่อยสินเชื่อ เพราะต้นทุนความเสี่ยงด้านเครดิต (credit cost) เพิ่มขึ้น

ดังนั้น เพื่อสนับสนุนให้สินเชื่อธุรกิจกลับมาขยายตัวได้ และช่วยประคับประคองเศรษฐกิจ จำเป็นต้องมีกลไกที่ช่วยแชร์ความเสี่ยงด้านเครดิตจากการปล่อยสินเชื่อแก่ภาคธุรกิจ โดยเฉพาะ SMEs ที่มีศักยภาพ ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวม

กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกลุ่มธนาคารพาณิชย์ จึงร่วมกันผลักดัน "โครงการกลไกการค้ำประกันสินเชื่อ : SMEs Credit Boost" ที่เป็นกลไกค้ำประกันความเสี่ยงสำหรับ สินเชื่อใหม่ ที่ธนาคารพาณิชย์ปล่อยให้ธุรกิจกลุ่มเป้าหมาย โดยครอบคลุม

(1) SMEs ในภาคธุรกิจภายใต้โครงการ Reinvent Thailand (เช่น การท่องเที่ยว การแพทย์และสุขภาพ เกษตร-เกษตรแปรรูป ยานยนต์และชิ้นส่วน อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ และการค้า รวมถึงธุรกิจที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทาน (supply chain) ของอุตสาหกรรมข้างต้น) และโลจิสติกส์

(2) SMEs และธุรกิจรายใหญ่ ที่มีแผนว่าจะนำสินเชื่อที่ได้รับไปใช้ยกระดับศักยภาพธุรกิจ หรือพัฒนาความสามารถในการแข่งขัน (เช่น ด้านดิจิทัลเทคโนโลยี การดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และนวัตกรรมแห่งโลกอนาคต) หรือเสริมสร้างมูลค่าเพิ่ม (value added) ต่อเศรษฐกิจไทย

ทั้งนี้ แหล่งเงินทุนของโครงการ จะมาจากการปรับลดเงินนำส่งเข้ากองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) ปี 2569 ของธนาคารพาณิชย์ ประมาณ 20,000 ล้านบาท เพื่อนำมาจัดตั้งเป็นกลไกค้ำประกันสินเชื่อ ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้มีสินเชื่อปล่อยใหม่เพิ่มขึ้นประมาณ 100,000 ล้านบาท ในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า

โครงการ SMEs Credit Boost ถูกออกแบบภายใต้แนวคิด "ตรงจุด มี impact กระจาย คล่องตัว" โดยมีรายละเอียด ดังนี้

- ตรงจุด : เน้นให้สินเชื่อใหม่แก่ SMEs ในภาคธุรกิจเป้าหมาย หรือผู้ประกอบการที่มีศักยภาพ เพื่อให้ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า

- มี impact : ช่วยให้มีเม็ดเงินใหม่เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจโดยไม่ช้า โดยกำหนดวงเงินชดเชยสูงสุด ในช่วง 15-30% (ขึ้นกับขนาดของผู้ประกอบการ) ของยอดสินเชื่อปล่อยใหม่แก่ผู้ประกอบการกลุ่มเป้าหมายในช่วง 2 ปีนับจากวันเริ่มโครงการ ระยะเวลาการค้ำประกันสูงสุด 7 ปีนับจากวันปล่อยสินเชื่อ ซึ่งคาดว่าจะช่วยสนับสนุนให้เกิดการปล่อยสินเชื่อใหม่ประมาณ 5 เท่าของวงเงินชดเชย

- กระจาย : เน้นช่วย SMEs และกระจายความช่วยเหลือไปยังผู้ประกอบการได้หลายราย จึงกำหนดวงเงินสินเชื่อรวมทุกธนาคารพาณิชย์สูงสุดต่อรายไม่เกิน 100 ล้านบาทสำหรับ SMEs และไม่เกิน 150 ล้านบาทสำหรับธุรกิจรายใหญ่

- คล่องตัว : ธนาคารพาณิชย์บริหารจัดการสินเชื่อได้คล่องตัว เพราะทราบโควตาวงเงินชดเชยที่ได้รับการจัดสรรอย่างชัดเจน ณ วันปล่อยสินเชื่อ อีกทั้งยังสามารถบริหารจัดการการขอรับเงินชดเชยภายในโควตาได้สะดวก จากกระบวนการขอรับเงินชดเชยที่ไม่ซับซ้อน และไม่ต้องรองบประมาณจากภาครัฐ

โครงการนี้ จะช่วยเสริมการดำเนินงานของโครงการค้ำประกันสินเชื่อ โดยบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) โดยมีเป้าหมายเดียวกัน คือ การเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบธุรกิจเข้าถึงสินเชื่อ และสนับสนุนการยกระดับศักยภาพทางธุรกิจ อันจะส่งผลบวกไปยังการจ้างงาน การสร้างรายได้ และการลงทุน ซึ่งจะช่วยเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญให้ระบบเศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว

ทั้งนี้ จะเริ่มดำเนินการโครงการได้ตั้งแต่ 15 มกราคม 2569 เป็นต้นไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ