ไฮซีซันไม่สุด! "พาณิชย์" เผยน้ำท่วมใต้-เหตุปะทะชายแดน ฉุดท่องเที่ยวปลายปี 68 ชะลอ

ข่าวท่องเที่ยว Monday December 29, 2025 15:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ไฮซีซันไม่สุด!

นายนันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เดือนพ.ย. 68 จำนวน 6,266 ราย ซึ่งครอบคลุมประชาชนทั่วประเทศ เกี่ยวกับการท่องเที่ยวไทยช่วงปลายปี 68 ผลการสำรวจพบว่า การเที่ยวคาเฟ่ และร้านอาหารยอดฮิต และการพักผ่อนอยู่ในที่พัก เป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ภาคเหนือ ยังคงเป็นจุดหมายสำหรับผู้ที่อยากสัมผัสธรรมชาติสวยงาม แต่ความแออัด และความหนาแน่น ยังคงเป็นความกังวลหลักสำหรับนักท่องเที่ยว

สำหรับพฤติกรรม และแผนการท่องเที่ยวในประเทศไทย ในช่วงเดือนพ.ย.-ธ.ค. 68 พบว่า ภาคเหนือ ยังคงเป็นภูมิภาคยอดนิยมที่ประชาชนต้องการไปท่องเที่ยวช่วงปลายปี ที่ 42.90% ตามมาด้วยภาคกลาง ที่ 19.17% และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ 14.95%

เมื่อพิจารณาตามภูมิภาค พบว่า ประชาชนในภาคกลาง และกรุงเทพฯ และปริมณฑล เป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มจะไปท่องเที่ยวในภาคเหนือมากที่สุด ขณะที่ประชาชนในภูมิภาคอื่น ๆ มีแนวโน้มจะไปท่องเที่ยวในภูมิภาคของตนเองมากที่สุด โดยเฉพาะประชาชนในภาคเหนือ และภาคใต้ ที่มีสัดส่วนการท่องเที่ยวในภูมิภาคของตนเองมากที่สุด ที่ 66.39% และ 53.19% ตามลำดับ

โดยกิจกรรมที่ประชาชนคาดว่าจะทำในระหว่างการท่องเที่ยว ได้แก่ การท่องเที่ยวธรรมชาติ ผจญภัยและกีฬา ที่ 27.81% ตามมาด้วยการเที่ยวคาเฟ่ และร้านอาหารยอดฮิต ที่ 24.91% และการพักผ่อนในที่พัก ที่ 18.02% โดยเมื่อพิจารณาจากคนที่มีความต้องการไปท่องเที่ยวในเกือบทุกภูมิภาคพบว่า มีการวางแผนในการท่องเที่ยวธรรมชาติ และร้านอาหารยอดฮิตมากที่สุด ในขณะที่ภาคตะวันตก พบว่า นอกเหนือจากการท่องเที่ยวธรรมชาติแล้วนั้น ประชาชนยังมีความต้องการท่องเที่ยวโบราณสถาน และพิพิธภัณฑ์เป็นลำดับรองลงมา

สำหรับการคาดการณ์ ค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวเดือนพ.ย.-ธ.ค.68 พบว่า ประชาชนคาดการณ์ว่าจะมีการใช้จ่ายในช่วงการท่องเที่ยวปลายปีอยู่ระหว่าง 5,000-10,000 บาท/คน/ทริปมากที่สุด ตามมาด้วย ค่าใช้จ่ายไม่เกิน 5,000 บาท/คน/ทริป และค่าใช้จ่ายระหว่าง 10,001-30,000 บาท/คน/ทริป เป็นลำดับรองลงมา

โดยการท่องเที่ยวในภาคเหนือ และภาคใต้ พบว่า น่าจะเป็นภูมิภาคที่มีแนวโน้มค่าใช้จ่ายสูงกว่าภาคอื่น ๆ เมื่อพิจารณาตามประเภทค่าใช้จ่าย พบว่าประชาชนให้ความสำคัญสูงสุดกับค่าใช้จ่ายในด้านอาหาร ที่ 29.15% ค่าใช้จ่ายในด้านการเดินทาง ที่ 26.41% และค่าใช้จ่ายด้านที่พัก ที่ 25.90% ในขณะที่การซื้อของฝาก และการช็อปปิ้ง มีสัดส่วนน้อยกว่า

และเมื่อพิจารณาตามกลุ่มอายุ พบว่า กลุ่มประชาชนอายุระหว่าง 30-59 ปี และกลุ่มที่คาดการณ์ว่าจะมีการใช้จ่ายระหว่างการท่องเที่ยว 30,001-50,000 บาท มีแนวโน้มจะใช้จ่ายในการซื้อของฝาก และการช็อปปิ้งมากที่สุด ซึ่งอาจช่วยสะท้อนความต้องการของประชาชน ที่ผู้ประกอบการอาจจำเป็นต้องพิจารณาการทำการตลาดในกลุ่มเป้าหมายดังกล่าว

ส่วนความกังวลของประชาชนในการท่องเที่ยวช่วงปลายปี 68 ในภาพรวมพบว่า ประชาชนที่มีแผนท่องเที่ยวในช่วงปลายปี 68 มีความกังวลในเรื่องความแออัดของสถานที่ท่องเที่ยวมากที่สุด ที่ 22.62% รองลงมาด้วยความกังวลด้านการจราจร และความปลอดภัย และอุบัติเหตุ ที่ 21.58% และ 20.63% ตามลำดับ

โดยเมื่อพิจารณาตามกลุ่มอายุพบว่า ประชาชนที่อายุต่ำกว่า 29 ปี และกลุ่มที่อายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไปมีความกังวลต่อเรื่องความปลอดภัยมากที่สุด ขณะที่ประชาชนที่อายุอยู่ระหว่าง 30-49 ปี มีความกังวลในด้านความแออัดของสถานที่ท่องเที่ยว และการจราจรมากที่สุด และเมื่อพิจารณาตามภูมิภาคพบว่า แม้ภาคเหนือจะเป็นจุดหมายที่ได้รับความนิยมมากที่สุด แต่ประชาชนในภาคเหนือยังมีความกังวลด้านความแออัดของสถานที่ท่องเที่ยวและการจราจรมากที่สุด จึงอาจจำเป็นต้องพิจารณาการอำนวยความสะดวกและการบริหารจัดการการจราจร เพื่อให้การท่องเที่ยวสามารถเป็นการท่องเที่ยวคุณภาพในช่วงเวลาสำคัญของประชาชน

สำหรับความกังวลด้านราคาสินค้า และบริการ ที่อาจปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นพบว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง มีความกังวลในประเด็นดังกล่าวมากที่สุด ดังนั้น อาจจำเป็นต้องมีการติดตามและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้ผู้ประกอบการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้าและบริการในช่วงเวลาดังกล่าว

นอกจากนี้ สำหรับประชาชนที่ไม่มีแผนการท่องเที่ยวช่วงปลายปีพบว่า ปัญหาทางการเงิน และค่าใช้จ่ายการท่องเที่ยวสูง ยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อการท่องเที่ยวของประชาชนในช่วงปลายปี ที่ 27.08% และ 23.76% ตามลำดับ เมื่อพิจารณาแยกตามกลุ่มอาชีพ พบว่า เกษตรกร กลุ่มไม่ได้ทำงาน และเกษียณอายุ และกลุ่มอาชีพอิสระ มีสัดส่วนความกังวลจากปัญหาดังกล่าวมากที่สุด และกลุ่มพนักงานของรัฐที่ยังไม่มีแผนการท่องเที่ยวปลายปีนี้ มีสัดส่วน 42.19% เนื่องจากมีแผนไปเที่ยวหลังจากนี้

เมื่อพิจารณาตามภูมิภาค พบว่า สถานการณ์อุทกภัย เป็นสาเหตุสำคัญที่ส่งผลให้การท่องเที่ยวของประชาชนในภาคใต้ปรับตัวลดลงอย่างชัดเจน โดยสัดส่วนความกังวลจากสถานการณ์ดังกล่าว เพิ่มขึ้นเป็น 13.64% จาก 4.80% จากผลการสำรวจก่อนหน้า

นายนันทพงษ์ กล่าวว่า แม้การท่องเที่ยวช่วงปลายปี 68 และเทศกาลสำคัญอาจจะชะลอตัวลงจากปีก่อนหน้าเล็กน้อย จากสถานการณ์ภายในประเทศที่เกิดขึ้น อาทิ ความขัดแย้งบริเวณชายแดน และสถานการณ์อุทกภัยในภาคใต้ ซึ่งอาจส่งผลต่อความรู้สึก และความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างมีนัยสำคัญ แต่อย่างไรก็ดี บรรยากาศการเฉลิมฉลองส่งท้ายปี 68 ที่กระจายไปทั่วประเทศ ยังคงมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนกิจกรรมการท่องเที่ยว และการใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ซึ่งจะเป็นตัวแปรสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี

ทั้งนี้ ภาครัฐได้ดำเนินมาตรการช่วยเหลือ และบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ต่าง ๆ ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงปลายปีอย่างเหมาะสม โดยมุ่งยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยในการเดินทางตลอดเส้นทางคมนาคม การอำนวยความสะดวกและบริหารจัดการความแออัดของแหล่งท่องเที่ยว รวมถึงการจัดการการจราจรที่อาจติดขัดในช่วงเทศกาลสำคัญ เพื่อให้การเดินทางท่องเที่ยวเป็นไปอย่างราบรื่น และปลอดภัย

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์จะติดตาม กำกับดูแล และควบคุมราคาสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาในช่วงเวลาสำคัญ ควบคู่กับการส่งเสริมการกระจายรายได้สู่ชุมชน ผ่านการสนับสนุนสินค้าชุมชน และสินค้าท้องถิ่น อาทิ แคมเปญ GI ไทย ส่งสุขปีใหม่ สุขใจชุมชนและแคตตาล็อกสินค้าของขวัญคุณภาพ GIFTS FOR GAIN เพื่อให้การท่องเที่ยวมีบทบาทในการกระจายรายได้ สนับสนุนสินค้าไทย และช่วยขยายโอกาสทางการตลาดของสินค้าไทยควบคู่กันไป ซึ่งจะส่งผลต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในอนาคต


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ