แอริส ซินกรอส ประธานบริหารบริษัท อินเวสท์ ของกรีซ กล่าวให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวว่า กรีซจำเป็นจะต้องปรับรูปแบบการเติบโตทางเศรษฐกิจให้มีความสมดุลอีกครั้ง ด้วยการเปลี่ยนจากที่เคยมุ่งเน้นเรื่องการอุปโภคบริโภค มาเป็นการผลิต ซึ่งถือเป็นทางเดียวที่จะช่วยให้กรีซหลุดพ้นจากวิกฤตหนี้ได้
ซินกรอสกล่าวกับซินหัวในระหว่างการเดินทางมาร่วมประชุมด้านการลงทุนในกรุงปักกิ่งว่า มาตรการรัดเข็มขัดของกรีซมีความจำเป็นที่จะช่วยรับมือกับปัญหาหนี้ในปัจจุบันได้ และหากรัฐบาลมีความมุ่งมั่นอย่างจริงจังในการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจและใช้มาตรการรัดเข็มขัด เศรษฐกิจกรีซก็จะกลับมาขยายตัวได้อีกครั้งในเร็วๆนี้
"ประชาชนชาวกรีซไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากเดินหน้าต่อไป ชาวกรีซจำเป็นต้องอดทน และนักลงทุนต่างชาติก็เช่นกัน เพราะการที่มาตรการรัดเข็มขัดจะใช้ได้ผลนั้น จำเป็นจะต้องใช้เวลา" ซินกรอสกล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวของซินหัวถามว่า กรีซจะสามารถดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศได้อย่างไร ซินกรอสกล่าวว่า รัฐบาลได้ประกาศใช้กฎหมายการลงทุนฉบับใหม่เพื่อสร้างบรรยากาศที่เป็นมิตรต่อภาคธุรกิจ ซึ่งรวมถึงการเสนอแรงจูงใจด้านภาษีและการสนับสนุนอุตสาหกรรมต่างๆเช่น พลังงานทดแทน โลจิสติก ท่องเที่ยว ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม นอกจากนั้น รัฐบาลยังได้บังคับใช้กฎหมายเร่งด่วน เพื่อช่วยลดกฎระเบียบที่เข้มงวดเกินไป และอำนวยความสะดวกในด้านการลงทุน
ซินกรอสเชื่อว่า วิกฤตมักจะสร้างโอกาสเสมอ ยกตัวอย่างเช่น วิกฤตการณ์ของกรีซได้สร้างโอกาสให้กับนักลงทุนของจีน นอกจากนี้ เขายังเชื่อมั่นในเรื่องความร่วมมือระหว่างจีนและกรีซ เมื่อพิจารณาจากโครงการในภูมิภาคตอนเหนือของกรีซที่มีนักลงทุนจีนเข้ามาประมูลถึง 15 รายเมื่อไม่นานมานี้