ผลสำรวจความคิดเห็นซีอีโอกว่า 320 คนจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งจัดทำโดยบริษัท ไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส (PwC) เปิดเผยว่า การบรรลุข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ระหว่างสมาชิกเอเปค 21 เขตเศรษฐกิจ ควรเป็นวาระสำคัญที่สุดในการประชุมเอเปค
ขณะเดียวกันซีอีโอ 2 ใน 3 เห็นว่าบรรดาผู้นำเอเปคควรเป็นผู้นำในการขจัดอุปสรรคทางการค้า และ 63% เชื่อว่าการจัดตั้งเขตการค้าเสรีระหว่างประเทศในกลุ่มเอเปคเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้บริษัทของพวกเขาประสบความสำเร็จ
"การทำธุรกิจในเอเชียกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้เศรษฐกิจของเอเปคขยายตัว" นายเดนนิส แนลลี ประธาน ไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งจะเป็นผู้กล่าวเปิดการประชุมสุดยอดซีอีโอเอเปค กล่าว "การค้าเสรีระหว่างทุกประเทศเอเปคจะช่วยลดการพึ่งพาการผลิตต้นทุนต่ำเพื่อส่งออกไปยังประเทศพัฒนาแล้ว"เพื่อกระตุ้นการขยายตัว บรรดาซีอีโอต้องการขยายธุรกิจในตลาดผู้บริโภคที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วของเอเชีย รวมถึงตลาดบริการที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยซีอีโอจำนวนมากกว่าเดิม (44%) กำลังลงทุนอย่างมโหฬารที่สุดในประเทศจีนในช่วง 3-5 ปีจากนี้ มากกว่าประเทศอื่นๆในกลุ่มเอเปค และการลงทุนในอนาคตเกือบ 1 ใน 3 เป็นการลงทุนขยายความสามารถด้านการบริการ ทั้งในด้านการบริหารจัดการ การวิจัยและพัฒนา รวมถึงปฏิบัติการด้านการเงินในประเทศจีน
สำหรับผลลัพธ์อื่นๆที่ได้จากการสำรวจครั้งนี้ ประกอบด้วย
- สนธิสัญญาทางการค้าระหว่างภูมิภาคจะมีบทบาทสำคัญในการเติบโตของประเทศสมาชิกเอเปค โดยซีอีโอ 64% กล่าวว่า ข้อตกลงการค้าระดับทวิภาคีและระดับภูมิภาค มีความสำคัญกับบริษัทมากกว่าข้อตกลงพหุภาคี
- ซีอีโอ 30% ระบุว่า การกีดกันทางการค้าโดยคู่ค้าเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการเติบโตของบริษัท
- ซีอีโอกว่า 60% กล่าวว่า ข้อตกลงความร่วมมือหุ้นส่วนภาคพื้นแปซิฟิค (TPP) เป็นหนทางที่อาจนำไปสู่การทำข้อตกลงการค้าเสรีทั่วภูมิภาค