ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศว่าจะทำการทดสอบภาวะวิกฤต (stress test) ของสถาบันการเงินรายใหญ่สุด 31 แห่งในสหรัฐ รอบใหม่ในปีหน้า เพื่อกำหนดว่าธนาคารเหล่านี้มีฐานเงินทุนแข็งแกร่งพอที่จะต้านทานภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยรุนแรงได้หรือไม่
การทดสอบภาวะวิกฤตรอบใหม่ซึ่งมีรายชื่อสถาบันการเงินใหม่ๆเข้ามาเพิ่มเติมนั้น เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่กระแสความวิตกกังวลของนักลงทุนเรื่องการลุกลามของวิกฤตหนี้ยูโรโซนและความเสียหายที่สถาบันการเงินได้รับจากวิกฤตหนี้ ได้สร้างความปั่นป่วนในตลาดเมื่อไม่นานมานี้
ทั้งนี้ เฟดได้เพิ่มรายชื่อสถาบันการเงินอีก 12 แห่งที่จะต้องเข้ารับการทดสอบภาวะวิกฤต หลังจากที่เฟดได้ทำการทดสอบสถาบันการเงินไปแล้ว 19 แห่งในปี 2554 โดยเฟดระบุว่า สถาบันการเงินใดที่มีทรัพย์สินมูลค่ามากกว่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์จะต้องเข้ารับการทดสอบ เพราะถือเป็นสถาบันการเงินที่มีความสำคัญในเชิงระบบตามที่กฎหมายปฏิรูปการเงินด็อด-แฟรงค์กำหนดไว้
เฟดระบุว่า ระดับของการให้รายละเอียดและการวิเคราะห์ฐานเงินทุนของสถาบันการเงินแต่ละแห่งนั้น จะขึ้นอยู่กับขนาด ความซับซ้อน ประวัติความเสี่ยง และขอบข่ายของการดำเนินงาน ของสถาบันการเงิน โดยสถาบันการเงินเหล่านี้จะต้องยื่นแผนเงินทุนต่อคณะกรรมการเฟดก่อนวันที่ 9 ต.ค.ปีหน้า เพื่อแสดงหลักฐานว่าสถาบันการเงินมีเงินทุนสำรองที่เพียงพอต่อการรับมือกับภาวะหนี้สูญที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเมื่อเศรษฐกิจถดถอย
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เฟดได้เริ่มดำเนินการทดสอบภาวะวิกฤตของสถาบันการเงินรายใหญ่ในสหรัฐเป็นรายปีมานับตั้งแต่ปี 2552 หลังจากที่เกิดวิกฤตการณ์การเงินไปทั่วโลก