ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรร่วงหนัก หลังเยอรมนีขายบอนด์ต่ำกว่าเป้า

ข่าวต่างประเทศ Thursday November 24, 2011 07:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินยูโรร่วงลงหนักสุดนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนต.ค.ที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (23 พ.ย.) หลังจากรัฐบาลเยอรมนีไม่สามารถระดมทุนได้ตามเป้าหมายในการเปิดประมูลขายพันธบัตรอายุ 10 ปีเมื่อวานนี้ ซึ่งทำให้เกิดความวิตกกังวลว่าเยอรมนีซึ่งเป็นประเทศยักษ์ใหญ่ของยูโรโวนอาจจะได้รับผลกระทบจากวิกฤตหนี้สาธารณะ นอกจากนี้ ยูโรยังได้รับแรงกดดันหลังจากฟิทช์ เรทติ้งส์ เตือนว่าฝรั่งเศสมีความเสี่ยงที่จะถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือหากวิกฤตหนี้ยูโรโซนลุกลาม

ค่าเงินยูโรร่วงลง 1.27% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3341 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของอังคารที่ 1.3513 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนตัวลง 0.79% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5516 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5639 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.52% เมื่อเทียบกับเงินที่ระดับ 77.360 เยน จากระดับ 76.960 เยน แต่ร่วงลง 1.5% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9195 ฟรังค์ จากระดับ 0.9140 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 1.39% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9698 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9835 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 0.98% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7397 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7470 ดอลลาร์สหรัฐ

สกุลเงินยูโรร่วงลงอย่างหนักเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตหนี้ยุโรป หลังจากธนาคารกลางเยอรมนีเผยว่า ยอดประมูลพันธบัตรซึ่งจะครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2564 อยู่ที่ 3.889 พันล้านยูโร (5.21 พันล้านดอลลาร์) ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายสูงสุดที่วางไว้ที่ 6 พันล้านยูโร (8.06 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) อยู่ถึง 35% อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลที่มากผิดปกติในตลาด ขณะที่อัตราผลตอบแทนในการประมูลขายพันธบัตรครั้งนี้อยู่ที่ 1.98%

นอกจากนี้ สกุลเงินยูโรยังร่วงลงหลังจากฟิทช์ เรตติงส์ เตือนว่า ฝรั่งเศสมีความเสี่ยงที่จะถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือจากระดับ AAA หากบรรดาผู้นำยุโรปไม่สามารถควบคุมวิกฤตหนี้ได้ พร้อมระบุว่า วิกฤตหนี้ยูโรโซนที่ทวีความรุนแรงจะทำให้เศรษฐกิจฝรั่งเศสและสหภาพยุโรปชะลอตัวลงอย่างรุนแรงยิ่งกว่าเดิม ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวยิ่งทำให้อันดับความน่าเชื่อถือ AAA ของฝรั่งเศสตกอยู่ในความเสี่ยงด้วย

ทั้งนี้ การที่เยอรมนีไม่สามารถระดมทุนได้ตามเป้าหมาย และการที่ฝรั่งเศสมีความเสี่ยงที่จะถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือนับเป็นสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ว่า สองมหาอำนาจทางเศรษฐกิจแห่งยูโรโซนอาจจะไม่สามารถต้านทานวิกฤตหนี้ยูโรโซนที่กำลังลุกลามไปทั่วภูมิภาคได้

ส่วนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจของหลายประเทศอ่อนแอลงอย่างมาก รวมถึงดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนในเบื้องต้น ร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 48 จุดในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2552 ขณะที่ดัชนี PMI ภาคการผลิตของเยอรมนีร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 47.9 จุดในเดือน พ.ย.ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 48.5 จุด และต่ำกว่าระดับ 50 จุดซึ่งเป็นเส้นชี้วัดการขยายตัวและการหดตัว

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายผู้บริโภคขยายตัวเพียง 0.1% ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นน้อยที่สุดในรอบ 4 เดือน อย่างไรก็ดี รายได้ของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนต.ค. ซึ่งเพิ่มมากที่สุดในรอบ 7 เดือน เพราะได้แรงหนุนจากค่าแรงและเงินเดือนภาคเอกชนที่สูงขึ้น ซึ่งรายได้ที่เพิ่มขึ้นอาจกระตุ้นการใช้จ่ายผู้บริโภคในฤดูจับจ่ายช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่นี้

*ตลาดเงินนิวยอร์กจะปิดทำการในวันพฤหัสบดีที่ 24 พ.ย.เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ