สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (25 พ.ย.) ซึ่งเป็นการปิดลบติดต่อกัน 2 วันทำการ เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐทำให้นักลงทุนลดความต้องการถือครองทองคำ นอกจากนี้ การที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรของรัฐบาลอิตาลีพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงในการประมูลเมื่อวานนี้ ยังส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาดทองคำด้วย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 10.2 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 1,685.7 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1695.1 - 1674.8 ดอลลาร์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 87 เซนต์ ปิดที่ 31.884 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 0.9 เซนต์ ปิดที่ 3.27 ดอลลาร์/ปอนด์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 25.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,533.10 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 19.75 ดอลลาร์ ปิดที่ 570.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ว่า วิกฤตหนี้ยุโรปที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นได้กระตุ้นให้นักลงทุนแห่ถือครองสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยผลการประมูลพันธบัตรระยะสั้นของรัฐบาลอิตาลีพุ่งขึ้นในการประมูลเมื่อวานนี้ ซึ่งทำให้กระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของปัญหาหนี้ยุโรปมีมากขึ้น
ดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินที่เป็นคู่ค้าหลักของสหรัฐ พุ่งขึ้น 0.68% เมื่อวานนี้ สู่ระดับ 79.63 จุด
เทรดเดอร์กล่าวว่า ในช่วงเวลาที่ผ่านมานั้น ทองคำถือเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย แต่เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจทั่วโลกมีมากขึ้น จึงทำให้นักลงทุนมองว่าสกุลเงินดอลลาร์เป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยมากกว่าและมีสภาพคล่องสูงกว่าในเวลานี้
นอกจากนี้ เทรดเดอร์คาดว่า สัญญาทองคำจะร่วงลงอีก หากตลาดทั่วโลกเผชิญกับภาวะสภาพคล่องตึงตัว ซึ่งจะยิ่งทำให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำเพื่อถือเงินสดเอาไว้