สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (29 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตหนี้ยุโรป หลังจากรัฐบาลอิตาลีสามารถระดมทุนด้วยการประมูลพันธบัตรได้ใกล้เคียงกับเป้าหมายสูงสุดที่กำหนดไว้เมื่อวานนี้ นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับยูโร และการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบ ยังเป็นอีกปัจจัยที่หนุนตลาดทองคำปิดบวกด้วย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 4.4 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 1,718.9 ดอลลาร์ หลังจากเคื่อนตัวในช่วง 1718.9 - 1711.8 ดอลลาร์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 29.2 เซนต์ ปิดที่ 31.95 ดอลลาร์/ออนซ์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 1.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,540.70 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 3.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 581.75 ดอลลาร์/ออนซ์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรป หลังจากรัฐบาลอิตาลีสามารถระดมทุนจากการประมูลพันธบัตรชุดใหม่ครั้งที่ 3 เมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยได้ทั้งสิ้น 7.5 พันล้านยูโร (1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งใกล้เคียงกับเป้าหมายสูงสุดที่วางไว้ที่ 8 พันล้านยูโร แม้อิตาลีต้องจ่ายอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงก็ตาม
ความสำเร็จในการประมูลพันธบัตรของรัฐบาลอิตาลีส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงทันทีเมื่อเทียบกับยูโร ซึ่งนับเป็นอีกปัจจัยที่หนุนบรรยากาศการซื้อขายในตลาดด้วย เนื่องจากสัญญาสินค้าโภคภัณฑ์ซึ่งรวมถึงทองคำนั้น มีการซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์ ซึ่งการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์จะทำให้ราคาสัญญาทองคำมีมูลค่าน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น
ไมค์ ดาลี ผู้เชี่ยวชาญด้านทองคำจากบริษัท PFGbest ในเมืองชิคาโกกล่าวว่า การพุ่งขึ้นของสัญญาน้ำมันดิบ NYMEX นับเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนสัญญาทองคำดีดตัวขึ้นด้วย โดยสัญญาน้ำมันดิบ NYMEX พุ่งขึ้นเหนือระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรลในระหว่างวัน อันเนื่องมาจากความตึงเครียดเกี่ยวกับสถานการณ์นิวเคลียร์ของอิหร่าน
นอกจากนี้ ดาลีกล่าวว่านักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนพ.ย.ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันศุกร์นี้ ก่อนที่จะตัดสินใจกำหนดกลยุทธ์การซื้อขายในขั้นต่อไป