ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)จะปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(จีดีพี)ของไทยในปี 54 เหลือเติบโตแค 1.8% จากเดิมคาดไว้ที่ 2.6% เนื่องมาจากผลกระทบของสถานการณ์อุทกภัยรุนแรงกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยประเมินความเสียหายที่มีต่อภาคอุตสาหกรรมและภาคเกษตรกรรมจะมีผลกระทบต่อจีดีพีเพิ่มขึ้นมากกว่าที่เคยคาดไว้ โดยผลกระทบต่อจีดีพีเพิ่มเป็น 2.1% จากเดิมมองไว้ที่ 1.1%
แต่ในปี 55 เศรษฐกิจจะขยายตัวได้ดีขึ้นเป็น 4.8% จากเดิมคาดไว้ 4.1% จากผลของการฟื้นฟูประเทศหลังน้ำท่วมคลี่คลายลงแล้ว ประกอบกับ มาตรการของภาครัฐที่จะกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศ
นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธปท.กล่าวว่า ธปท.ประเมินความต้องการใช้เงินของประชาชนและการฟื้นฟูที่อยู่อาศัยที่จะมีเป็นจำนวนมากนั้น น่าจะส่งผลทำให้หนี้ภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้นด้วย แต่คงต้องรอประเมินความชัดเจนอีกครั้ง และส่วนหนึ่งประชาชนนำเงินสดออกมาใช้จ่ายมากขึ้น ก็จะทำให้เงินออมลดลง
อย่างไรก็ตาม จากที่ ธปท.ได้สำรวจและสอบถามความเห็นจากภาคธุรกิจและหอการค้า พบว่าภาคเอกชนมองว่าการฟื้นตัวของภาคการลงทุนและการผลิตจะเกิดขึ้นตั้งแต่เดือน ม.ค.55 แต่จะฟื้นตัวเต็มที่ช่วงปลายไตรมาส 2/55 ขณะที่ ธปท.คลายกังวลว่านักลงทุนต่างประเทศจะย้ายฐานการผลิต ทั้งอุตสาหกรรมรถยนต์และฮาร์ดดิสก์ โดยเฉพาะรถยนต์มีการรวมกลุ่มอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ หากย้ายฐานการผลิตต้องใช้ต้นทุนค่อนข้างสูง
ส่วนปัญหาการว่างงานนั้น ผลสำรวจส่วนใหญ่ภาคธุรกิจยังคงต้องจ้างงานเหมือนเดิม แต่อาจลดค่าจ้างลงในช่วงที่เกิดภาวะน้ำท่วมและการฟื้นฟูสายการผลิต ทำให้ภาพโดยรวมผลกระทบจ้างงานไม่มาก ประกอบกับ ก่อนหน้านี้ประเทศไทยก็มีปัญหาขาดแคลนแรงงานอยู่แล้ว