สมาคมห้างสรรพสินค้าเปิดเผยว่า ห้างสรรพสินค้าในญี่ปุ่นมียอดจำหน่ายเดือนพ.ย.ต่ำกว่าปีที่ผ่านมา 1.9% มาอยู่ที่ระดับ 5.465 แสนล้านเยน (ราว 7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้านั้นซึ่งตัวเลขไม่เปลี่ยนแปลง นับเป็นยอดขายที่ตกต่ำลงเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกันแล้ว
รายงานของสมาคมระบุว่า ยอดขายที่ลดลงส่วนหนึ่งมาจากความต้องการเสื้อผ้าฤดูหนาวที่ซบเซา เนื่องจากสภาพอากาศกลับอบอุ่นอย่างเหนือความคาดหมาย ทำให้ยอดจำหน่ายเครื่องแต่งกายชายลดลง 2.2% ส่วนเสื้อผ้าผู้หญิงลดลง 2.8% เช่นเดียวกับเฟอร์นิเจอร์ที่มียอดขายลดลง 3.4%
อย่างไรก็ตาม ยอดขายสินค้าหรู ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกาและอัญมณี ต่างปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากอยู่ในช่วงเทศกาลแจกโบนัสปลายปีในญี่ปุ่น ทำให้ความต้องการสินค้าหรูมีเพิ่มมากขึ้น
หากเปรียบเทียบในรายไตรมาสพบว่า ยอดขายลดลง 1.6% เท่ากับตัวเลขในไตรมาสเดือนส.ค.-ต.ค.
อย่างไรก็ตาม รายงานจากสมาคมยืนยันว่า ตัวเลขในปัจจุบันบ่งชี้ว่า ยอดขายตามห้างสรรพสินค้าในญี่ปุ่น “แข็งแกร่งมาก"
เฉพาะในกรุงโตเกียว ยอดขายรวมในห้างสรรพสินค้า 26 แห่งที่ได้รับการสำรวจลดลง 3.0% ในเดือนพ.ย.เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และเป็นการปรับลดลงเดือนที่ 5 ติดต่อกัน ก่อนหน้านี้ตัวเลขเมื่อเดือนต.ค.ลดลง 1.9% ขณะที่เดือนก.ย.ลดลงถึง 3.6%
อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่ซึ่งอยู่ระหว่างการฟื้นฟูหลังเหตุแผ่นดินไหวนั้น ยอดขายของห้างสรรพสินค้าได้ปรับตัวขึ้น โดยร้านค้าในเมืองมิยากิมียอดขายเพิ่มขึ้น 11.3% โดยการปรับตัวขึ้นเดือนที่ 7 ติดต่อกันเมื่อเปรียบเทียบรายปี โดยได้รับอานิสงส์ยอดจำหน่ายเสื้อผ้าฤดูหนาวและชุดแต่งงาน
สำหรับข้อมูลของสมาคมห้างสรรพสินค้าญี่ปุ่นรวบรวมจากบริษัท 86 แห่งซึ่งบริหารห้างสรรพสินค้า 254 ร้านที่เปิดสาธารณะมาไม่ต่ำกว่า 1 ปี และนับเป็นดัชนีชี้วัดความรู้สึกของผู้บริโภคในประเทศ สำนักข่าวซินหัวรายงาน