สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (30 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาทองคำร่วงลงติดต่อกัน 6 วันทำการ ซึ่งช่วยหนุนสัญญาทองคำให้สามารถปิดบวก 1.7% ในการซื้อขายวันสุดท้ายของปี 2554
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 25.9 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 1,566.8 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 60 เซนต์ ปิดที่ 27.915 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 6.6 เซนต์ ปิดที่ 3.436 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 38.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,404.90 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ทะยานขึ้น 32.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 656.15 ดอลลาร์/ออนซ์
สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างความคิดเห็นของเทรดเดอร์ว่า การที่สัญญาทองคำร่วงลงติดต่อกันยาวนานถึง 6 วันทำการนั้น ได้กระตุ้นให้กลุ่มผู้จัดการกองทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรในวันศุกร์ นอกจากนี้ การที่สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่หนุนแรงซื้อเช่นกัน
ทั้งนี้ ในช่วง 6 ทำการที่ผ่านมา สัญญาทองคำร่วงลงไปทั้งสิ้น 4.7% ซึ่งจูงใจให้กลุ่มผู้จัดการกองทุนเข้ามาทำกำไรในช่วงปลายปี ส่วนตลอดปี 2554 นั้น สัญญาทองคำทะยานขึ้นทั้งสิ้น 145.4 ดอลลาร์ หรือ 10.2% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นรายปีที่แข็งแกร่งที่สุดเป็นประวัติการณ์
เมื่อวันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมา สัญญาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,923.7 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากนักลงทุนแห่เข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากปัญหาเงินเฟ้อและภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย แต่หลังจากนั้นไม่นาน สัญญาทองคำก็ร่วงลงจากระดับดังกล่าว เนื่องจากวิกฤตหนี้ยุโรปได้ฉุดตลาดสินค้าโภคภัณฑ์และตลาดหุ้นทั่วโลกดิ่งลง ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนกระหน่ำขายทองคำเพื่อชดเชยการขาดทุนในตลาดอื่นๆ
จากนั้นสัญญาทองคำก็ปรับตัวทั้งขึ้นและลงอย่างผันผวนในเดือนธ.ค. เนื่องจากกลุ่มผู้จัดการกองทุนที่ถือครองสัญญาทองคำในระยะยาวนั้น ได้ระบายสัญญาออกมาเป็นบางส่วนเพื่อนำเงินสดมาใช้ในการเสริมฐานเงินทุนให้แข็งแกร่ง ขณะที่นักลงทุนกลุ่มที่วิตกกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพด้านการเงินในยุโรป ได้เทขายสัญญาทองคำเพื่อถือเงินสดเอาไว้