พลัสฯ คาดปี 55 ตลาดอาคารสนง.โตกว่า 7%สีลม,สาทร,สุขุมวิท,เพลินจิต,อโศก-รัชดายังฮิต

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday January 18, 2012 12:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เผยผลสำรวจภาพรวมตลาดอาคารสำนักงานในปีที่ผ่านมา พบมีอุปสงค์รวม 87% แม้ในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวจากหลายปัจจัย ในขณะที่มีอุปทานใหม่มีแค่ 1 โครงการ เฉลี่ยราคาเช่าปรับตัวสูงขึ้น 4% หรือเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 17 บาท/ตร.ม.คาดปี 55 มีอุปสงค์ใหม่สู่ตลาดกว่า 500,000 ตร.ม. แต่เชื่อมั่นว่าตลาดสามารถดูดซับได้

นายอนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานบริหารสินทรัพย์ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า จากการสำรวจตลาดอาคารสำนักงานในปีที่ผ่านมา พบอุปทานใหม่เพียง 1 อาคาร คือ โครงการพาร์ค เวนเจอร์ อีโคเพล็กซ์ 27,000 ตารางเมตร ส่งผลให้มีพื้นที่อาคารสำนักงานสะสมในปัจจุบันจำนวน 7.641 ล้านตารางเมตร ลดลงราว 1% จากปี 53

อัตราการเช่าพื้นที่ปี 54 มีอุปสงค์เพิ่มขึ้น 0.5% มาอยู่ที่ 87% หลังเศรษฐกิจชะลอตัวจากภัยธรรมชาติ สำหรับราคาค่าเช่าเฉลี่ยปรับเพิ่มขึ้น 4% หรือเพิ่มขึ้น 17 บาท/ตร.ม.มาอยู่ที่ 498 บาท/ตารางเมตร เมื่อพิจารณาเป็นรายพื้นที่พบว่าพื้นที่ธนบุรี นนทบุรี เพลินจิต-ชิดลม รัชดาภิเษก พญาไท และสุขุมวิท เพิ่มขึ้น 35%, 5%, 4%, 4%, 1% และ 0.3% ตามลำดับ ส่วนพื้นที่อื่นๆ ปรับราคาลดลงเพียง 0.3-3% โดยพื้นที่สำนักงานเกรดเอ ปรับราคาเพิ่มขึ้น 3% มาอยู่ที่ 640 บาท/ตร.ม.และเกรดบี ลดลง 4% มาอยู่ที่ 467 บาท/ตร.ม.

“ภาพรวมตลาดอาคารสำนักงานในปี 54 นับว่ายังทรงตัวต่อเนื่องจากปี 53 แม้ต้องเผชิญปัญหาอุทกภัยในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีอย่างไรก็ตามยังพบว่าอุปทานใหม่มีการเติบโตได้เป็นระยะและพอจะเห็นอุปสงค์ดูดซับได้ดีพอสมควร คาดการณ์ว่าในอนาคตตลาดอาคารสำนักงานมีแนวโน้มขยายตัวอีกราว 7% หากโครงการก่อสร้างพื้นที่ประมาณ 500,000 ตารางเมตรแล้วเสร็จในจำนวนนี้มีอาคาร KPI, อาคารอีควิน็อกซ์ เป็นต้น ที่เตรียมเปิดตัวในปี 55 ซึ่งคาดว่าอุปสงค์จะยังมีการดูดซับได้แม้จะไม่สูงมากนัก เพราะภาวะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายหลังน้ำลด และการขยายกำลังการผลิตอาจจะยังไม่เติบโตมากนักใน 1-2 ปีนี้"นายอนุกูล กล่าว

เมื่อมองถึงปัจจัยบวกที่ส่งผลต่อการเติบโตของตลาดอาคารสำนักงานในปีนี้ การขยายตัวของตลาดยังคงค่อยเป็นค่อยไป ส่วนใหญ่น่าจะเป็นการขยายพื้นที่ของสำนักงานเดิมหรือว่าย้ายไปเพื่อให้เดินทางสะดวกมากขึ้น คนส่วนใหญ่มองหาทำเลที่เดินทางสะดวกใกล้รถไฟฟ้า หรือสามารถเข้าถึงได้ง่าย ประหยัดพลังงาน ตึกในส่วนที่เป็นพื้นที่เก่าก็คงจะเป็นการปรับปรุงหรือปรับราคาเช่าเพื่อให้ดึงดูดผู้เช่าใหม่มากขึ้น

แต่หากมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจในภาคพื้นอาเซียน ประเทศไทยโดยเฉพาะกรุงเทพฯ ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมในการมาเปิดธุรกิจของบริษัทข้ามชาติ ส่วนธุรกิจที่จำเป็นต้องหาออฟฟิศสำรอง น่าจะเป็นส่วนของโรงงานและคลังสินค้าที่ได้รับผลกระทบ ในช่วงที่ผ่านมาก็มีบ้างที่มีการย้ายสำนักงานชั่วคราวเพื่อให้สามารถทำงานและติดต่องานกับต่างประเทศได้ สำหรับในปีนี้จะมีการเตรียมการรองรับไว้หรือไม่ คงจะต้องขึ้นกับว่าจะมีปัญหาน้ำท่วมรุนแรงเหมือนปีที่ผ่านมาหรือไม่

ส่วนของโรงงานที่มีฐานการผลิตหลายที่ก็มีการย้ายฐานมาสำรองเพิ่มในโซนที่คิดว่าปลอดภัยเช่น ย้ายมาที่แหลมฉบัง ระยอง ศรีราชา การจัดเตรียมพื้นที่ออฟฟิศสำรองของภาครัฐและเอกชน คิดว่าอาจจะเป็นแนวโน้มที่เป็นข่าวออกมาในช่วงที่มีน้ำท่วม แต่ในการทำงานจริงๆ คงต้องมีอีกหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้อง คิดว่าหากมีการจัดการจริงคงจะเป็นเรื่องใหญ่ เพราะต้องมีการเตรียมการล่วงหน้าต้องมีเรื่องของการทำสัญญาเช่าซึ่งระยะเวลาของสัญญาจะกำหนดกันอย่างไรการจะคิดแผนงานรองรับจำนวนคนและการเตรียมการอาจจะต้องใช้เวลาและงบประมาณ ทั้งเรื่องของพื้นที่และระบบสาธารณูปโภคที่ต้องมีรองรับ อาจจะทำให้ตลาดคึกคัก แต่ก็ไม่แน่ใจว่าตลาดในส่วนไหน ที่จะได้รับอานิสงส์จากการเตรียมออฟฟิศสำรอง ในความเห็นมองว่าอาจจะเป็นออฟฟิศสำนักงานขนาดใหญ่ในเมืองที่มีราคาไม่สูงมาก น่าจะเป็นระดับ B และ C มากกว่า แต่ว่าอาคารเหล่านี้ก็ต้องยอมรับสัญญาระยะสั้นได้และมีการรองรับในเรื่องการจัดการที่ดีด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ