นายลักษณ์ วัจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ธ.ก.ส.พร้อมดำเนินโครงการรับจำนำมันสำปะหลัง ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ - พฤษภาคม 2555 เพื่อยกระดับราคามันสำปะหลัง โดยรับจำนำหัวมันสดตามเปอร์เซ็นต์เชื้อแป้งที่ 25% ในราคากิโลกรัมละ 2.75 บาท และปรับเพิ่มขึ้นเดือนละ 0.05 บาท จนถึงเดือนพฤษภาคม 2555 ให้ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 2.90 บาท เป้าหมายรับจำนำ 10 ล้านตัน
โดยวิธีการคือให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) รับสมัครลานมันและโรงแป้งเข้าร่วมโครงการเพื่อใช้เป็นจุดรับฝากหัวมันสดและจ่ายใบประทวนให้เกษตรกร จากนั้นเกษตรกรจะนำใบประทวนดังกล่าวมาจำนำกับ ธ.ก.ส. และ ธ.ก.ส.จะจ่ายเงินให้เกษตรกรภายใน 3 วันทำการ ส่วนลานมันและโรงแป้งที่รับฝากหัวมันสดจะต้องแปรสภาพหัวมันสดเป็นมันเส้นและแป้งมันส่งมอบเข้าคลังกลางตามหลักเกณฑ์และมติของคณะอนุกรรมการกำกับดูแลการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลังปี 2554/2555
ส่วนเกณฑ์การรับจำนำ เกษตรกรต้องมีหนังสือรับรองจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่าผลผลิตมันสำปะหลังเป็นของตนเอง เป็นลูกค้า ธ.ก.ส. สามารถจำนำผลผลิตในพื้นที่จังหวัดของตนเองเท่านั้น ยกเว้นกรณีที่บางจังหวัดมีลานมันหรือโรงแป้งเข้าร่วมโครงการน้อย ไม่เพียงพอต่อการให้บริการ ก็ให้คณะอนุกรรมการกำกับดูแลระดับจังหวัดเป็นผู้พิจารณากำหนดจุดรับจำนำนอกพื้นที่
สำหรับการให้สินเชื่อ 15,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการแก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำ โดยจัดสรรให้สถาบันเกษตรกร 5,000 ล้านบาท และองค์การสวนยาง (อ.ส.ย.) จำนวน 10,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0 ใช้รับซื้อยางพารานำไปแปรรูปและรอขายในราคาที่เหมาะสม จะดำเนินการระหว่างเดือนมกราคม 2555 - มีนาคม 2556 เพื่อรักษาระดับราคาที่ 120 บาทต่อกิโลกรัม
ขณะเดียวกัน คณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) มีมติให้ ธ.ก.ส.สนับสนุนสินเชื่อ Packing Creditวงเงิน 1,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปี ระยะเวลา 3 เดือน ให้ผู้ประกอบการโรงงานแปรรูปสับปะรด เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนกิจการ และเสริมสภาพคล่องในการรับซื้อสับปะรดส่วนเกินจากเกษตรกร ในการนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์น้ำสับปะรดเข้มข้นไว้รอการจำหน่าย
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการโรงงานแปรรูปสับปะรดที่เข้าร่วมโครงการต้องจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ในเรื่องการกำหนดราคารับซื้อสับปะรดขั้นต่ำ ณ หน้าโรงงานในราคาไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 4 บาท กับเกษตรกร สถาบัน และภาคราชการ ในช่วงระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2554 จนถึงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2555 โดยผู้ประกอบการจะได้รับชดเชยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 3 ต่อปี จากคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) เป็นระยะเวลา 3 เดือนนับตั้งแต่วันที่ได้รับสินเชื่อจาก ธ.ก.ส.และสิ้นสุดโครงการในวันที่ 31 พฤษภาคม 2555
โดยคาดว่าการดำเนินโครงการดังกล่าวจะใช้งบประมาณทั้งสิ้น 7.725 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินชดเชยดอกเบี้ย Packing Credit ระยะเวลา 3 เดือน วงเงิน 7.5 ล้านบาท ค่าบริหารจัดการโครงการของกรมส่งเสริมการเกษตรวงเงิน 0.225 ล้านบาท
นายลักษณ์ เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของ ธ.ก.ส. ในช่วง 9 เดือน หรือ ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 คือในวันที่ 1 เมษายน - 31 ธันวาคม 2554 ได้ปล่อยสินเชื่อใหม่ทั้งสิ้น 379,781 ล้านบาท ทำให้มียอดสินเชื่อรวม 726,659 ล้านบาท ขยายตัวจากต้นปีบัญชีร้อยละ 25.81 สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 9.18 ทั้งนี้เป็นผลมาจากการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/55 ทำให้สินเชื่อนโยบายรัฐขยายตัวจากต้นปี 66,740 ล้านบาท
ขณะที่เงินฝากมียอดรวมจำนวน 789,696 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากต้นปีบัญชีร้อยละ 8.69 และอัตราสินทรัพย์สภาพคล่องต่อสินทรัพย์รวมลดลงจากต้นปีซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 23.02 เป็นร้อยละ 11.30