รัฐบาลอิตาลีสามารถระดมทุนจากการประมูลขายพันธบัตรระยะยาวได้ทั้งสิ้น 7.46 พันล้านยูโร (9.81 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในวันนี้ ซึ่งการประมูลพันธบัตรระยะยาวถือเป็นทดสอบความเชื่อมั่นของตลาดว่า อิตาลีจะสามารถรับมือกับวิกฤตหนี้ได้หรือไม่ หลังจากที่ถูกฟิทช์ เรทติ้งส์ ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลง 2 ขั้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ อิตาลีมียอดจำหน่ายพันธบัตรอายุ 5 ปีทั้งสิ้น 3.57 พันล้านยูโร ที่อัตราผลตอบแทน หรือต้นทุนการกู้ยืม 5.39% ลดลงจากระดับ 6.47% ในการประมูลเมื่อเดือนที่แล้ว และสามารถจำหน่ายพันธบัตรอายุ 10 ปีเป็นวงเงินสูงสุดถึง 2 พันล้ายูโร ที่อัตราผลตอบแทน 6.08% ลดลงจากระดับ 6.98%
นอกจากนี้ อิตาลียังสามารถจำหน่ายพันธบ้ตรประเภทอื่นๆได้อีก 2 พันล้านยูโร โดยให้อัตราผลตอบแทนที่ต่ำกว่า
การประมูลพันธบัตรอิตาลีในครั้งนี้ถือเป็นการทดสอบว่า ตลาดการเงินยังคงมีความเชื่อมั่นในประสิทธิภาพการรับมือกับวิกฤตหนี้ของรัฐบาลอิตาลีหรือไม่ หลังจากฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลี ซึ่งเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่สุดในยูโรโซน ลง 2 ขั้น มาอยู่ที่ระดับ A- จากระดับ A+ พร้อมกับให้แนวโน้มความน่าเชื่อถือของอิตาลี "เชิงลบ" เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ การประมูลพันธบัตรของอิตาลียังมีขึ้นในช่วงเวลาที่ผู้นำรัฐบาลในกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) จะจัดการประชุมที่กรุงบรัสเซลส์ เมืองหลวงของเบลเยี่ยมในวันนี้เวลา 21.00 น.ตามเวลาไทย โดยมีเป้าหมายที่จะผลักดันให้มีการใช้มาตรการควบคุมการยอดขาดดุลงบประมาณ และเพื่อหารือกันเกี่ยวกับการจัดตั้งกองทุนกลไกสร้างเสถียรภาพยุโรป (ESM) ในปีนี้ ซึ่ง ESM เป็นกองทุนช่วยเหลือถาวรของยูโรโซนที่ปัจจุบันมีเงินทุนอยู่ 5 แสนล้านยูโร หรือ 6.60 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และได้รับการคาดหมายว่าจะมาแทนที่กองทุนสร้างเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) ในปีนี้