ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรร่วง เหตุตลาดผิดหวังเจรจาหนี้กรีซไม่คืบหน้า

ข่าวต่างประเทศ Tuesday January 31, 2012 07:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (30 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังที่การเจรจาเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ระหว่างรัฐบาลกรีซและกลุ่มเจ้าหนี้ไม่มีความคืบหน้า อย่างไรก็ตาม สกุลเงินยูโรปรับตัวลงในกรอบที่จำกัด เพราะได้รับแรงหนุนในระหว่างวัน จากข่าวที่ว่า 25 ชาติสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) สามารถตกลงกันได้เรื่องการจัดตั้งกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM)

ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.68% แตะที่ 1.3134 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.3224 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนตัวลง 0.18% แตะที่ 1.5704 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5733 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.51% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 76.280 เยน จากระดับ 76.670 เยน และพุ่งขึ้น 0.64% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9176 ฟรังค์ จากระดับ 0.9118 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียดิ่งลง 0.54% แตะที่ 1.0594 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0651 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 0.68% 0.8182 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8238 ดอลลาร์สหรัฐ สกุลเงินยูโรร่วงลงหลังจากรัฐบาลกรีซและกลุ่มเจ้าหนี้เอกชนไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ของกรีซมูลค่า 2 แสนล้านยูโรได้ก่อนการประชุมอียู ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจทำให้กรีซเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ เนื่องจากกรีซใกล้จะถึงเวลาไถ่ถอนพันธบัตรจำนวนมหาศาลในวันที่ 20 มี.ค.นี้

การเจรจาเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ยังคงยืดเยื้อ เนื่องจากกลุ่มเจ้าหนี้เอกชนและรัฐบาลกรีซยังไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องอัตราผลตอบแทน นอกจากนี้ กรีซยังได้ปฏิเสธข้อเสนอการปล่อยให้บุคคลภายนอกเข้ามาก้าวก่ายในเรื่องการใช้มาตรการรัดเข็มขัด

อย่างไรก็ตาม สกุลเงินยูโรปรับตัวลงในกรอบที่จำกัด เนื่องจากตลาดขานรับข่าวที่ว่า ที่ประชุมยังมีมติรับรองข้อตกลงที่ทำขึ้นระหว่าง 17 ชาติสมาชิกยูโรโซน เกี่ยวกับสนธิสัญญาการจัดตั้ง ESM ซึ่งเป็นกองทุนถาวรวงเงิน 5 แสนล้านยูโรที่จะเริ่มดำเนินการในเดือนก.ค. และ 25 ประเทศสมาชิกอียูจะร่วมลงนามในสนธิสัญญาด้านการคลังซึ่งมีเป้าหมายที่จะคุมเข้มวินัยด้านการคลังและหนี้สิน

ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงต้นทุนการจ้างงานประจำไตรมาส 4/2554, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนม.ค., ดัชนีภาคการผลิตเดือนม.ค. และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค.

นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนม.ค.ของสหรัฐ จะปรับตัวเพิ่มขึ้น 167,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานจะอยู่ที่ระดับ 8.5% ในเดือนม.ค. เนื่องจากภาคเอกชนมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวและสามารถต้านทานวิกฤตหนี้ยุโรปได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ