นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวถึงการหารือกับนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมงเมื่อคืนนี้เกี่ยวกับอัตราการจัดเก็บเงินค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมจากธนาคารพาณิชย์เพื่อนำมาชำระหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินวงเงิน 1.14 ล้านล้านบาทว่า ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปเกี่ยวกับอัตราการจัดเก็บเงินและระยะเวลาการชำระคืนหนี้กองทุนฟื้นฟูฯ
อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะมีข้อสรุปที่ชัดเจนและสามารถประกาศอัตราที่จัดเก็บได้ภายใน 1-2 สัปดาห์ โดยจะเริ่มจัดเก็บเงินงวดแรกในอัตราใหม่ภายในเดือน ก.ค.55 โดยงวดวันที่ 31 ม.ค.นี้ จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ธนาคารพาณิชย์จะส่งเงินเข้าสถาบันคุ้มครองเงินฝาก (สคฝ.) ในอัตรา 0.4% ของเงินฝาก หลังจากนั้นจะมีการประกาศอัตราการส่งเงินใหม่อย่างมีนัยสำคัญ
ทั้งนี้ จากการหารือผู้ว่า ธปท.ได้ยืนยันว่าการเก็บเงินจากธนาคารพาณิชย์ดังกล่าวจะไม่กระทบกับผู้ฝากเงิน ผู้กู้เงิน และผู้ถือหุ้นของธนาคาร เนื่องจากอัตราโดยรวมที่จัดเก็บจะใกล้เคียงกับที่ธนาคารพาณิชย์เคยส่งให้กับ สคฝ.
ด้านนายประสาร กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีเวลาที่จะพิจารณาว่าอัตราการจัดเก็บเงินจากธนาคารพาณิชย์ โดยจะเริ่มเก็บอัตราใหม่ในเดือน ก.ค.นี้ ซึ่งการหารือได้มีความเห็นที่สอดคล้องกับนายกิตติรัตน์ไม่ได้เกิดความขัดแย้งใด
อย่างไรก็ตาม ในการหารือยังได้กล่าวถึงความไม่เท่าเทียมกันในการแข่งขันของธนาคารพาณิชย์และธนาคารรัฐ ซึ่ง รมว.คลังได้รับเรื่องไว้พิจารณาแล้ว