สำนักงานสถิติของอินโดนีเซียเปิดเผยวันนี้ว่า ยอดส่งออกตั้งแต่เดือนม.ค.-ธ.ค. ปี 2554 เพิ่มขึ้น 29.05% สู่ระดับ 2.0362 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับปี 2553
สำหรับเดือนธ.ค. ยอดส่งออกสินค้าจากอินโดนีเซียแตะ 1.720 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งต่ำกว่าเดือนพ.ย.อยู่ 0.22%
ยอดส่งออกสินค้าที่ไม่จัดอยู่ในกลุ่มน้ำมันและก๊าซพุ่ง 24.88% มาแตะที่ 1.6202 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2554 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
นายเจโร วาซิก รมว.พลังงานกล่าวว่า อินโดนีเซียพิจารณาลดการส่งออกน้ำมันดิบเพื่อชดเชยยอดนำเข้าที่อาจลดลงหากเกิดวิกฤตช่องแคบฮอร์มุซ เนื่องจากอุปสงค์พลังงานในประเทศพุ่งสูงขึ้น
นักวิเคราะห์ระบุว่า เศรษฐกิจโลกชะลอตัวไม่ส่งผลกระทบต่อยอดส่งออกของอินโดนีเซียมากนัก เนื่องจากสินค้าส่วนใหญ่เป็นสินค้าจำเป็นพื้นฐาน อาทิเช่น ผลิตภัณฑ์จากทรัพยากรธรรมชาติและผลิตภัณฑ์จากพืชไร่
นายบายู กริสนาเมอร์ที รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการค้ากล่าวเมื่อวันที่ 29 ธ.ค.ว่า กระทรวงคาดการณ์ว่ายอดส่งออกอาจจะทะยานขึ้นแตะ 2.30 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2555
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ยอดส่งออกของอินโดนีเซียคิดเป็นสัดส่วนราว 26% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ช่วยให้ประเทศไม่ตกอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงเมื่อพิจารณาอุปสงค์สินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลกชะลอตัวลง
การส่งออกและการลงทุนที่ขยายตัว ตลอดจนการบริโภคที่พุ่งสูงขึ้น ถือเป็นปัจจัยหลักที่หนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของอินโดนีเซีย ซึ่งมีประชากรถึงประมาณ 280 ล้านคน
ส่วนการนำเข้านั้น เพิ่มขึ้น 30.69% สู่ระดับ 1.7730 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2554 จากตัวเลขเมื่อปี 2553 ตามรายงานของสำนักงานสถิติ