สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 0.9% ทั้งในแง่ของปริมาณและมูลค่า สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับตัวลดลง 0.3%
โดยร้านจำหน่ายสินค้าภาคครัวเรือนมียอดขายเพิ่มขึ้น 4% เช่นเดียวกับยอดขายเชื้อเพลิงที่ทะยานขึ้น 8.5% ในขณะที่ร้านค้าปลีกที่จำหน่ายอาหารซึ่งมีสัดส่วน 42% ของตลาดค้าปลีกนั้นรายงานยอดขายที่ลดลง 0.3% ทั้งในแง่ปริมาณและมูลค่า
นักวิเคราะห์ตั้งข้อสังเกตว่า ลูกค้าอาจจับจ่ายใช้สอยในเดือนม.ค.กันมากเนื่องจากมีการต่อรองราคาสินค้า และคาดว่าปัจจัยดังกล่าวจะกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยได้อย่างต่อเนื่อง
ธุรกิจค้าปลีกของอังกฤษมีแนวโน้มว่าจะได้รับแรงหนุนจากภาวะสภาพคล่องที่ไหลเวียนดีขึ้นในระบบการเงิน หลังจากธนาคารกลางอังกฤษประกาศขยายมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อีก 5 หมื่นล้านปอนด์ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์คาดว่ายอดค้าปลีกที่ขยายตัวแข็งแกร่งเกินคาดของอังกฤษช่วยบรรเทาแรงกดดันในตลาด หลังจากการที่มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ได้ให้แนวโน้มความน่าเชื่อถือที่เป็นลบต่ออังกฤษ ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณเตือนว่ามีความเป็นไปได้ที่มูดีส์จะลดอันดับความน่าเชื่อถือ AAA ของอังกฤษในวันข้างหน้า