ทำเนียบขาวเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะปรับตัวไปสู่การขยายตัวที่ยั่งยืน ในขณะที่การส่งออกจะยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง"ในอัตรารวดเร็ว" ถ้าวิกฤติหนี้ยุโรปคลี่คลายลง
สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจระบุในรายงานเศรษฐกิจประจำปีต่อประธานาธิบดีโดยตั้งข้อสังเกตว่า การส่งออกของประเทศได้แตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์ในปี 2554 แม้ว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกชะลอลง "ความเสี่ยงที่รุนแรงที่สุดต่อความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องในด้านเหล่านี้อยู่นอกเหนือขอบเขตของสหรัฐ"
"หากสามารถคลี่คลายวิกฤติหนี้ได้ การขยายตัวของการส่งออกและความคืบหน้าไปสู่การปรับสมดุลมีแนวโน้มดำเนินไปในอัตราที่รวดเร็ว" รายงานระบุ
นอกจากนี้ รายงานที่ปธน.โอบามายื่นต่อสภาคองเกรสยังระบุว่า การชะลอตัวในยุโรปอาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐผ่านทางการค้าและการลงทุนโดยตรง รวมทั้งผ่านทางช่องทางการเงิน
ในด้านวิกฤติการเงินยุโรปที่ยืดเยื้อนั้น รายงานย้ำถึงจุดยืนของสหรัฐที่ว่า กลุ่มประเทศยุโรปควรเป็นแกนนำในการแก้ปัญหา
"คณะบริหารยังคงเรียกร้องให้มีการดำเนินการในหลายระดับในยุโรป เช่น การสร้างมาตรการปกป้องทางการเงินมากขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่า รัฐบาลสามารถกู้ยืมโดยมีอัตราดอกเบี้ยที่สามารถจัดการได้ ขณะที่มีการดำเนินนโยบายเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับพื้นฐานการขยายตัวทางเศรษฐกิจและเพื่อลดหนี้สิน"
"การปรับตัวของเศรษฐกิจโลกและสหรัฐบางส่วนจะขึ้นอยู่กับการแก้ปัญหาในยูโรโซนอย่างรวดเร็ว" รายงานเสริม